Clarins Skin Illusion รองพื้นเนื้อเซรั่มแต่งแต้มงานผิว พร้อมบำรุงดูแลผิวอย่างเต็มพิกัด

ถ้ามีผิวสวยดูดีจริง เดี๋ยวนี้เขายิ่งต้องโชว์ให้คนเห็นให้คนอิจฉา แหม! มันหมดยุคแล้วไหม แบบว่าโบกปิดผิวซะมิดชิดแลดูแน่นอึดอัดน่ะ ทีนี้พอลงเมคอัพยังไงก็มีแต่จะทำลายความสวยงามอันมีค่า ลองมาว่ากันถึงเทรนด์โลกที่อินสุดๆ ของสาวยุคโซเชี่ยลชอบเซย์ฮัลโหล สรุปจบว่า #ทำผิวให้สวยอวดได้อวดไปเลย #ยิ่งปิดยิ่งดูแก่ นะคะ!

Clarins Skin Illusion SPF15-10

Clarins Skin Illusion SPF15-2

ตอนนี้เป็นเวลามีของดีต้องแชร์ต้องบอกให้ทั่วถึง ใครที่เคยวุ่นวายอยู่แต่กับการตามหารองพื้นคู่แท้ของชีวิตฉัน ครั้งนี้ได้เจอกันซักทีนะคะ เจอกับ Clarins Skin Illusion SPF 15 (ขนาด 30 มล. ราคา 1,700 บาท) รองพื้นสูตรพัฒนาล่าสุดนี้ คือความลงตัวที่สุดของพิกเม้นต์สีที่ผสานอยู่ใน Organic Mary’s thistle oil ออยล์บำรุงเนื้อนุ่มบางเบาดุจแพรไหม ไม่ทิ้งความมัน มอบความรู้สึกเรียบเนียนไปกับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เพียงหยดรองพื้น 2-3 ดรอปทาลงบนผิว ผิวของคุณจะรู้สึกได้ทันทีถึงความสดชื่น เรียบเนียนบางเบา และมอบความชุ่มชื้นต่อเนื่องยาวนาน ผลลัพธ์ที่มองเห็นคือสีผิวที่ดูสม่ำเสมอและเปล่งประกาย อำพรางจุดด่างดำและข้อบกพร่องของผิวให้ดูจางลง ผิวของคุณจึงดูงดงามเสมือนผิวเปลือยเปล่าที่สวยอย่างไร้ที่ติ คุณค่าการบำรุงจากสารสกัดในสาหร่ายสีแดง (Red Jania Extract) มีคุณสมบัติช่วยให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกอย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์คือผิวที่ดูกระจ่างใส ที่ยิ่งเปล่งประกายยามต้องแสง

Clarins Skin Illusion SPF15-7

 

3 ส่วนผสมแห่งธรรมชาติ 3 เซรั่มอันโด่งดังของคลาแรงส์ สู่ที่สุดแห่งเซรั่มในรูปแบบของ Foundation เพียงหนึ่งเดียวของคลาแรงส์

Clarins Skin Illusion SPF15-6

Mary’s thistle oil

The illusion of bare skin…A nude veil Skin Illusion คือหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มอบความรู้สึกดีๆสู่ผิว ส่วนผสมสำคัญ organic Mary’s thistle oil ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ Double Serum รองพื้นเนื้อสัมผัสแบบเซรั่มสูตรพัฒนาล่าสุดนี้คือความพอดีที่ลงตัวที่สุดของสัมผัสอันปลอบประโลม ได้รับการบำรุง เนื้อสัมผัสบางเบาสบายผิว พร้อมมอบความสดชื่นในทันทีที่เนื้อผลิตภัณฑ์สัมผัสกับผิว

Clarins Skin Illusion SPF15-5

Red Jania

A real radiance-booster! Let there be light. ประกายชิมเมอร์มุกละเอียดของ HD Light Optimizing Complex จะทำการจับแสง กระจายแสง และขยายแสงที่ตกกระทบ ให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส ในขณะที่พิกเม้นต์สีแบบ soft focus จะช่วยสะท้อนแสงกลับไปในทุกทิศทาง เพื่ออำพรางทุกจุดบกพร่อง ส่วนผสมจากธรรมชาติ Red Jania สารสกัดสำคัญที่มีอยู่ใน White Plus Tri-Intensive Brightening Serum คือตัวช่วยสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในการเร่งการผลัดเซลล์ผิว ส่งผลให้การผ่านของแสงที่มาตกกระทบลงบนผิวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผิวจึงยิ่งดูสว่างกระจ่างใสกว่าที่เคย

Clarins Skin Illusion SPF15-4

Organic Leaf of Life

Perfectly hydrated skin Skin hydration Skin Illusion รองพื้นเนื้อเซรั่มที่มีคุณสมบัติช่วยเสริมกระบวนการเก็บกักความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดจากใบของต้น Leaf of Life ที่มีอยู่ในHydra-Essentiel Bi-Phase Serum ผิวคุณจึงดูชุ่มชื้นอย่างมีสุขภาพดี

Clarins Skin Illusion SPF15-1

 

ใครที่คิดอยากสัมผัสกับรองพื้นเนื้อเซรั่มใหม่นี้ พุ่งตรงไปเคาน์เตอร์ Clarins ได้เลยทันทีค่ะ เพราะตอนนี้เขามีวางจำหน่ายแล้ว และยังมีเฉดสีให้เลือกถึง 6 เฉด

Nars รวยละมุนความเฉิดฉายมาใน Natural Radiant Longwear Foundation ปกปิดเนียนสนิทผิวมากขึ้น

หลายคนคิดเห็นตรงกันว่ารองพื้นรุ่นใหม่ๆ ทำไมดูช่างมีความดีงามน่าใช้มากขนาดนี้ คือให้เราได้ทั้งนวัตกรรมใหม่เอี่ยม สูตรเบาสบายผิว เนื้อสัมผัสเกลี่ยเนียน และผลลัพธ์ดูดีเป็นธรรมชาติ เหล่านี้ทำให้เกิดเหตุผลเอ่ยชวนให้บรรดาผู้หญิงที่ไม่เคยสนใจจะใช้รองพื้นซักนิด เธอๆ ได้หันกลับมาอยากลองแล้วลองอีก

Nars Natural Radiant Longwear Foundation Model

NARS Natural Radiant Longwear Foundation Fluid

วันนี้ทางเรามีมาแนะมาอวดกัน เพราะเป็นของแบรนด์ขวัญใจมหาชนชาวบิวตี้ทั่วโลก Nars ครีเอทงานดีๆ มาให้ ถ้าไล่เวอร์ชั่นรองพื้นแบบเทพๆ ที่เราเคยลองกันมา ตั้งแต่ SHEER GLOW FOUNDATION, ALL DAY LUMINOUS WEIGHTLESS FOUNDATION, SOFT MATTE COMPLETE CONCELAER และ RADIANT CREAMY CONCEALER มาในปี 2018 นี้ เครื่องสำอางNars มีความภูมิใจที่จะนำเสนอ Nars Natural Radiant Longwear Foundation (ราคา 1,950 บาท) ผลิตภัณฑ์รองพื้นอีกรุ่น ที่พัฒนามาจากเสียงเรียกร้องของหญิงสาวทั่วโลกที่ต้องการผลลัพธ์การปกปิดผิวอย่างสมบูรณ์ เนียนเรียบ และยังให้ผิวสวยกระจ่างใส

#4คุณสมบัติเด่นที่โดนใจแฟนนาร์ส
1.รุ่นแรกที่เนื้อปกปิด แต่เกลี่ยง่าย เรียบเนียนไปกับผิวในทันที พร้อมเปี่ยมประสิทธิภาพในการเติมแสงแต่งผิวให้ดูสว่าง กระจ่างใสเต็มพิกัด
2.การปกปิดที่มากกว่า แต่เบาสบายผิว ปรับระดับได้จากปกปิดปานกลางถึงระดับสูง ตามที่คุณปรารถนาเพื่อให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ยืดหยุ่นกระชับไปกับผิว ให้ผิวสดใสอย่างต่อเนื่องราวกับเพิ่งแต่งเสร็จ
3.รองพื้นสูตรติดทนนาน 16 ชั่วโมง
4.มีให้เลือก 33 เฉดสี (ประเทศไทยนำเข้า 23 เฉดสี สำหรับสาวเอเชีย)

NARS Natural Radiant Longwear Foundation 1

#ความสวยทรงพลังของรองพื้นสูตรนี้
ด้วยสูตรแนบสนิทติดทนนาน ทวีระดับสูงขึ้นด้วยการใช้วิทยาการชั้นสูง ก่อกำเนิดเนื้อสัมผัสบางเบาราวไร้น้ำหนัก ในขณะเดียวกันก็ให้ความยืดหยุ่นเหนือชั้น จึงดูกลมกลืนกับผิวพรรณอย่างแนบเนียน แลดูประหนึ่งไม่ได้แต่งเติม การออกแบบสูตรเพื่อสนับสนุนส่งเสริมความงดงามให้ผิวพรรณอย่างต่อเนื่องชั่วโมงต่อชั่วโมง ด้วยส่วนผสมเชิงซ้อน Skin Optimizing Complex อุดมด้วยสารสกัดจากผลไม้ เพื่อช่วยฟื้นบำรุงถนอม และปกป้องความยืดหยุ่น แน่นกระชับของผิวอย่างล้ำลึก พร้อมเผยผลลัพธ์ของผิวที่แลดูละเอียด นวลเนียน ในขณะที่เม็ดสีพิเศษมอบประสิทธิภาพในการปรับตัวให้โทนสีกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับสีผิวธรรมชาติได้อย่างสมจริง มีให้เลือกถึง 23 เฉดสี

 

NARS Natural Radiant Longwear Foundation & Radiant Creamy Concealer 1

NARS Natural Radiant Longwear Foundation & Radiant Creamy Concealer Stylized Medium Image

#ของมันต้องมี #มีรองพื้นก็ต้องมีคอนซีลเลอร์
เพื่อความงามที่สมบูรณ์แบบ Nars เพิ่มเฉดสีใหม่ของคอนซีลเลอร์ ให้ใกล้เคียงกับผิวคุณมากยิ่งขึ้น สำหรับใช้คู่กับ Natural Radiant Longwear Foundation
Nars Radiant Creamy Concealer (ราคา 1,320 บาท) คอนซีลเลอร์ยอดขายอันดับ 1 จากนาร์ส สูตรพิเศษที่มอบเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม อุดมไปด้วยคุณสมบัติมอบความชุ่มชื่น ฟื้นบำรุงสภาพผิว แต่งใต้ตาเติมประกายสว่างให้โทนผิว และบดบังร่องรอยดำคล้ำ รวมถึงจุดสิวอักเสบในบริเวณต่างๆ เพื่อเติมเต็มความงดงามของผิวพรรณ มอบการปกปิดอย่างกลมกลืนตั้งแต่ระดับกลางถึงสูงสุด มาพร้อมผลลัพธ์ผิวที่ดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ และคงความงดงามต่อเนื่องระยะยาวปราศจากริ้วเส้นตำหนิตลอดวัน ไม่แห้งแตกเป็นริ้ว ไม่ก่อให้เกิดสิว ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังแล้ว ปราศจากสารพาราเบน ปราศจากแอลกอฮอล์ ปราศจากน้ำหอม
มีให้เลือกมากถึง 13 เฉดสีเดิมและ 5 เฉดสีใหม่ที่เหมาะกับสาวเอเชียอย่าง CAFÉ CON LECHE Light 2.6, MARRON GLACÉLight 2.8,TIRAMISUMedium 1.75,SUCRE D’ORGEMedium-Dark 1.5, และ WALNUTMedium-Dark 2.6

 

NARS 689 GLASS QUARTIER

#แวะมาช็อปที่นี่ #มีความเป็นนาร์สอยู่เต็มเปี่ยม
NARS 689 GLASS QUARTIER นาร์สเปิดบูติกแห่งแรกของแบรนด์ขึ้นในประเทศไทยที่ชั้น G อาคารกลาส ควอเทียร์ ในศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ การออกแบบเน้นความเป็นเส้นสายที่คมชัด พร้อมกับบรรยากาศหรูหราทันสมัยตามแบบฉบับคุณฟรองซัวส์ นาร์ ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ซึ่งได้คุณฟาเบียน บารอน แห่งบริษัทออกแบบ Baron & Baron จากนิวยอร์ก มาช่วยในการออกแบบ นอกจากร้านที่ถูก ออกแบบอย่างโดนเด่นแล้ว NARS Boutique แห่งนี้ยังมีการรวบรวม Limited Edition ที่คู่ควรแก่การครอบครองมาไว้ในบูติกแห่งนี้อีกด้วย

 

ภาพผลิตภัณฑ์ : ลิขสิทธิ์แบรนด์

IPSA จัดที่สุดแห่งการดูแล ME Ultimate มากับ Foundation Ultimate #เพื่อผิวต้องสวยให้สุด

ถ้าเป็นเรื่องของการดูแลผิวให้สวยมากๆ มากขึ้นไปอีก คอนเฟิร์ม!สาวไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ด้วยเหตุผลดีต่อผิวเช่นนี้เอง จึงทำให้มีการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพียบด้วยความน่าใช้และนวัตกรรมการขั้นสูง…ทีนี้ก็ส่งมาให้แฟนๆ ไทยได้ใช้เป็นประเทศแรกๆ กันเลยน่ะสิคะ

Ipsa Foundation and ME Ultimate 1

ทางแบรนด์เครื่องสำอาง IPSA ได้เชิญเราให้เข้าร่วมในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดนี้ #ดีงามทุกสิ่งอย่างจริงๆ มีอะไรบ้างเดี๋ยวแชร์ให้ฟังตอนนี้เลยค่ะ

Ipsa ME Ultimate 1

#เจอซุปตาร์ตัวแม่กันก่อนเลย คือถ้าคุณใช้อิปซ่าก็ต้องได้ใช้เธอแน่ๆ IPSA ME Ultimate (ขนาด 50 มล.ราคา 3,900 บาท) อิปซ่าเป็นแบรนด์ที่สรรค์สร้างความงามตามความต้องการของแต่ละคน “ME Ultimate” (เอ็ม-อี อัลทิเมท) จึงถูกตั้งฉายา #ฟลูอิดความงาม มีให้เลือก 3 สูตรใหม่ แม้ว่าสภาพผิวจะแตกต่างกัน แต่คุณล้วนได้รับผลลัพธ์ผิวสวยอันเป็นหนึ่งเดียว ฟูลอิดนี้จะช่วยเสริมพลังในขั้นตอนผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ และพลังการฟื้นบำรุงตนเองตามธรรมชาติของผิว ส่งผลให้ผิวแลดูสวยเปล่งประกาย มีความสุขภาพดีที่แท้จริงอย่างยั่งยืน

หัวใจส่วนผสมที่มีอยู่ใน ME Ultimate
Amino A5 GENE EX เป็นสูตรผสมใหม่ใน “Ultimate” ประกอบขึ้นจากกรดอะมิโน 5 ชนิด ร่วมกับส่วนผสมเชิงซ้อน Skin Activating Complex EX ที่ตอบสนองต่อกระบวนการสื่อสารภายในของผิว เพื่อสร้างผิวสัมผัสที่งดงาม Algaelumina EX ส่งมอบความชุ่มชื่น คงสมดุลการทำงานของผิวพรรณ เพื่อทำการลดภาวะกระตุ้นต่อ A-M Enzyme หนึ่งในสาเหตุบั่นทอนวงจรการทำงานของระบบการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ประกอบไปด้วย Lemon Extract, Algae Extract, และแร่ธาตุจากท้องทะเล

Ipsa ME Ultimate

ME Ultimate มี 3 สูตรตรงใจผิว
ME Ultimate1 มอบความรู้สึกสดชื่น นุ่มกระชับ เหมาะสำหรับผิวมัน ME Ultimate2 มอบความชุ่มฉ่ำให้ผิว เพื่อผิวที่นุ่มนวล เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ME Ultimate3 มอบความรู้สึกสดชื่นเข้มข้น ให้ผิวแข็งแรงอิ่มเอิบสุขภาพดี เหมาะสำหรับผิวแห้ง

หลังจากบำรุงผิวเสร็จเรียบร้อย แต่ทว่าผิวใสๆ ของคุณก็ยังคงเรียกร้องผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่อีกนั่นแหละ IPSA Foundation Ultimate (6 เฉดสีใหม่ ราคา 3,500 บาท) รองพื้นเพื่อการจุดประกายผิวสวย แนบเนียนเป็นหนึ่งเดียวกับผิว เหมือนเช่นที่ทุกคนอยากได้ #ผิวเนียนสวยดุจผิวเปลือยเปล่าปราศจากการแต่งเติม ล้ำหน้านำมาโดย Ultimate Glow Technology ทำให้เนื้อรองพื้นบางเบาคลี่ตัวรับกับทุกอณูผิว ช่วยรับมือกับปัญหาผิวไม่เรียบเนียนไม่สม่ำเสมอ รวมกับ Glow Oil Base ซึ่งพัฒนาจากน้ำมันสกัดจากผลอาร์แกน สามารถช่วยสะท้อนแสงตกกระทบ เกิดประกายเปล่งปลั่ง เรืองรอง และ Glow Gold Pearl อณูมุกประกายทองรุ่นใหม่ ส่งผลให้สารให้สี Hydrophobized Color Material ในสูตรรองพื้น ปกป้องคงความชัดเจนของเนื้อสี ทวีประกายสดใสอย่างต่อเนื่อง ไม่คล้ำหมองแม้เหงื่อออก

IPSA Foundation Ultimate ยังมาพร้อมแปรงที่ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ จะช่วยเสริมความเปล่งปลั่งให้แก่โทนสีผิวธรรมชาติ ทำให้เม็ดแป้งยึดตัวเกาะผิวแนบสนิทติดทนนานผ่านรูปทรงซึ่งช่วยกระจายตัวเนื้อรองพื้น บางเบา สม่ำเสมอ และทั่วถึง เพื่อให้การลงรองพื้นเป็นไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องใช้เทคนิคซับซ้อนแต่อย่างใด

 

อยากได้อยากใช้แล้วสิ ก็แค่ตรงมาที่เคาน์เตอร์ IPSA ทุกสาขา…ตอนนี้วางขายแล้วค่ะคุณ

 

ภาพผลิตภัณฑ์ : ลิขสิทธิ์แบรนด์

เครดิตภาพ : 1, 2

YSL All Hours Foundation อวดโชว์ใบหน้าเนียน #แม้มาชิดสนิทใกล้ #หน้าคอมจรดถึงปาร์ตี้

การตามหาคู่แท้ของตัวเองว่ายากแล้ว แต่นี่ถ้ามาคู่แท้ของผิวน่าจะยากกว่า ก่อนโน้นคิดอย่างนี้นะ แต่พอวันนี้เดี๋ยวนี้ #เจอตัวจริงไม่ขอเปลี่ยน

Yves Saint Laurent Beauté สร้างสรรค์นำพามาให้ผู้หญิงทั้งโลกได้พบกันแล้ว All Hours Foundation ผลิตภัณฑ์รองพื้นสูตรติดทนนาน ใหม่ล่าสุด ในตระกูล “ENCRE DE PEAU” มอบการปกปิดเนียนสนิท ควบคุมความมัน ติดทนนาน 24 ชั่วโมง มาสวยด้วยกันตั้งแต่ส่องกระจกก่อนออกไปท่องราตรี จนกระทั่งทำความสะอาดเมคอัพก่อนเข้านอน เพราะนี่คือผลิตภัณฑ์แต่งผิวที่เป็นเสมือนเครื่องปกป้องผิวจากสภาพแวดล้อมในเมือง ในคอลเลกชั่นเฉดสีที่หลากหลายครอบคลุมทุกสีผิว

YSL All Hours Foundation Visual 1

 

 

YSL All Hours Primer

เริ่มที่ All Hours Primer (ราคา 2,500 บาท) ไอเท็มชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับกิจวัตรการแต่งผิวของคุณ ไพรเมอร์ที่ช่วยให้ผิวดูเนียนกริบไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเพ่งพินิจอย่างละเอียดหรือมองใกล้แค่ไหน เริ่มต้นการแต่งผิวด้วยไพรเมอร์ที่การันตีว่าผิวจะดูแม็ตต์ ไม่แตกเป็นรอยย่น ปิดท้ายค่ำคืนในสภาพเดียวกับเมื่อตอนเริ่มต้นวัน

เลเยอร์แรกในการแต่งผิวที่ช่วยปรับแต่งผิวให้ดูดีขึ้น เขย่าขวดสีดำดีไซน์เท่ก่อนคลายเกลียวฝาขวด แล้วเทไพรเมอร์ลงบนปลายนิ้วหรือแปรงในปริมาณพอเหมาะ รูขุมขนจะดูลดเลือนลง ผิวดูเรียบเนียนในทันที แม้เวลาผ่านพ้นไป ผิวก็ยังคงไร้ความมันเงาและแลดูสดชื่น

YSL All Hours Foundation 1

 

ลำดับถัดมา All Hours Foundation (ราคา 2,500 บาท) รองพื้น “ไนท์พรู๊ฟ” (night-proof) สูตรแรกของแบรนด์ที่ติดทนตลอดวันตลอดคืน ไม่ว่าคุณจะดื่ม เดท หรือแดนซ์จนค่ำคืนสิ้นสุดลง รองพื้นสูตรกันน้ำที่ไม่ไหลเยิ้มหรือลอกหลุดง่ายนี้ก็ทำให้ผิวของคุณยังคงดูดีไร้ที่ติ ไม่ต่างจากเมื่อตอนเพิ่งลงเสร็จใหม่ในตอนเช้า ไม่จำเป็นต้องแต่งเติมระหว่างวัน ผิวดูสวยเพอร์เฟ็คต์ตลอดเวลาดุจการเริ่มต้นใหม่
อัดแน่นด้วยเม็ดสีอณูละเอียด กันน้ำและไม่ไหลเยิ้มหรือลอกหลุด สร้างการปกปิดที่เนียนสนิทและให้ความรู้สึกสดชื่น ไร้ที่ติ คงอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมผลการแต่งผิวที่ดูละมุนละไมด้วยประสิทธิภาพของซิลิคอน เรซิน (silicon resin) ทรงกลม มีให้เลือกมาถึง 22 เฉดสี จากอ่อนถึงเข้ม
ด้วยโพลีเมอร์ชนิดพิเศษที่มอบความติดทนนาน เพอร์ไลต์ (perlite) จากหินภูเขาไฟ ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับได้มากกว่าน้ำหนักตัวในน้ำถึง 3.5 เท่า และแอโรเจล (aerogel) ช่วยให้ผิวดูแม็ตต์และช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน ทำให้รองพื้นสูตรนี้ยังคงอยู่กับผิวคุณตลอดการทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งวันและทั้งคืน ส่วนผสมปรับสภาพผิวสูตรพิเศษที่มีคุณสมบัติแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยปรับปรุงเนื้อผิวและปกป้องผิวจากปัจจัยคุกคามในเมืองใหญ่ ขณะที่กอมบุชกา (Kombuchka) สารสกัดจากชาดำหมักช่วยให้ผิวดูสว่างและเรียบเนียนขึ้น พร้อมด้วย SPF 20 ที่ช่วยให้ปกป้องอนาคตของผิวคุณ

 

ฟองน้ำหน้าตาเก๋ๆ Eponge Teint (ราคา 790 บาท) ฟองน้ำสำหรับลงรองพื้นสีดำนี้ออกแบบมาเพื่อใช้กับรองพื้นสูตรมอบการปกปิดโดยเฉพาะ แต่ละด้านเหมาะสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ด้านกว้างใช้สำหรับลงรองพื้นในบริเวณที่กว้าง ด้านที่เรียวเล็กใช้สำหรับลงรองพื้นในบริเวณที่เข้าถึงได้ยากและเพิ่มการปกปิดเฉพาะจุด ส่วนด้านทีโค้งจะช่วยให้คุณเกลี่ยรองพื้นได้อย่างเนียนเรียบ

 

ตามไปค้นพบความสวยเพอร์เฟคทั้งหมดนี้ได้แล้วนะคะ ที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง “อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ โบเต้” ทุกสาขา

 

ภาพผลิตภัณฑ์ : ลิขสิทธิ์แบรนด์

Beauty Review: รองพื้นเนื้อบางเบาสูตรใหม่ของ Benefit

 

ถ้าพูดถึงแบรนด์เครื่องสำอางที่มักจะมีอะไรใหม่ๆ น่ารักๆ มาให้สาวๆตื่นเต้นอยู่เสมอล่ะก็ ผู้เขียนก็จะนึกถึงแบรนด์ Benefit เป็นอันดับแรกๆเลย เพราะนอกจากแพ็คเกจจะดูน่ารักน่าหยิบน่าจับแล้ว ยังมีอาวุธลับใหม่ๆมาให้ได้กรี๊ดกร๊าดกันอยู่เสมอด้วย

 

 อย่างเช่นเมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้รับกล่องของขวัญรูปกล้องถ่ายรูปแสนน่ารัก ภายในมีผลิตภัณฑ์เตรียมผิวและอำพรางรูขุมขนที่ใครๆก็รู้จักดีสามสี่หลอด ซึ่งหนึ่งนั้นในเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน จึงหยิบมาดูเป็นชิ้นแรก แล้วพบว่าเป็นครีมรองพื้นสูตรใหม่ ที่เคลมว่าเนื้อเบาบางไร้น้ำหนัก แต่ปกปิดร่องรอยไม่พึงประสงค์ได้มิดชิด

 

บางเบาแล้วปกปิดได้มิดชิดเหรอ? ฟังดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้นะ! เลยนำมาทดลองใช้ซะเลย และพบผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมาก เชิญอ่านรายละเอียดในรีวิวนี้ได้เลย

 

Benefit the POREfessional: pore minimizing makeup ขนาด 15 มล. ราคา 1,300 บาท

 

benefit002

 

คืออะไร?: ครีมรองพื้นเนื้อลิควิดที่เป็นเนื้อแมตต์ ที่ช่วยอำพรางรูขุมขนด้วยส่วนผสมของสารสกัดจาก Mushroom Extract นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมความมันได้ถึง 8 ชั่วโมง ไม่ทำให้เกิดรูขุมขนอุดตัน และติดทนนานโดยไม่เลื่อนหลุดด้วย โดยมีเฉดสีให้เลือกตั้งแต่ขาวไปจนถึงเข้มถึง 5 เฉดสี สาวๆผิวคล้ำต้องยิ้มออกแน่ๆ เพราะมีเฉดสีที่คุณใช้ได้โดยไม่ทำให้ดูหน้าวอกหน้าลอยแน่นอน!

 

benefit007

 

ดียังไง?: ขอบอกว่าครีมรองพื้นหลอดนี้มีเนื้อค่อนข้างเหลว แต่มีเม็ดสีที่เข้มข้นมาก จึงช่วยปกปิดร่องรอยไม่พึงประสงค์ได้อย่างมิดชิดอย่างที่เค้าว่าไว้จริงๆ เนื้อรองพื้นก็เกลี่ยง่ายด้วย ลองทาไว้ตั้งแต่เช้าจรดเย็นก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหรือเลื่อนหลุดไปไหน

 

ซึ่งเมื่อทาเสร็จใหม่ๆจะดูเป็นเนื้อแมตต์ ซึ่งช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ลองจับเวลาดูก็ราวๆสี่ห้าชั่วโมงเลยนะกว่าจะเห็นหน้าเริ่มมันขึ้นมาใหม่ แถมเฉดสีก็ดูใกล้เคียงกับสีผิวจริงด้วย (ผู้เขียนมีผิวสองสีเลยเลือกใช้เบอร์ 4 ที่ดูกลมกลืนกับสีผิวจริงมากๆ)

 

benefit003

 

ขอยืนยันอีกทีว่ารองพื้นของ Benefit หลอดนี้ มีเนื้อเบาบางอย่างที่บอกเอาไว้จริงๆ เผลอๆจะเบาบางกว่าบีบีครีมซะอีกนะ ฉะนั้นสาวคนไหนที่ไม่ชอบโบ๊ะรองพื้นเนื้อหนาๆ หรืออยากพลางตาให้ใครๆนึกว่าไม่ได้แต่งหน้าอะไรมากมายล่ะก็ รองพื้นขวดนี้จะเหมาะกับคุณมากๆ และยิ่งถ้ามีปัญหาความมันเยิ้มด้วยล่ะก็ รองพื้นหลอดนี้ก็เอาอยู่จริงๆ!

 

benefit004benefit009

 

วิธีใช้: ก่อนใช้ก็ต้องเขย่าขวดให้ดีซะก่อน จากนั้นก็ดึงหัวฟองน้ำออกมาจากก้นหลอด เปิดฝาบริเวณหัวหลอด แล้วกดบริเวณที่เขียนว่า “Press” เพื่อให้เนื้อรองพื้นหยดออกมาสองสามหยด (ขอเตือนว่าเนื้อรองพื้นจะเหลวมาก เพราะฉะนั้นควรเอาหัวฟองน้ำรองเอาไว้ใต้ปากหลอดเสมอ เนื้อรองพื้นจะได้ไม่หกเลอะเทอะ) จากนั้นก็กดหัวฟองน้ำลงบนผิวเบาๆ เพื่อเกลี่ยครีมรองพื้นให้ดูกลมกลืนไปกับผิว คุณอาจทาทั้งหน้า หรือทาเฉพาะในบริเวณที่ต้องการลดเลือนความมัน (อย่างบริเวณทีโซน) ก็ได้ และถ้าคุณอยากมีผิวสวยแบบไม่มีที่ติล่ะก็ ลองทำตาม 4 ขั้นตอนนี้ด้วยนะ

 

benefit006

 

ทา the POREFessional: matte Rescue (ราคา 1,200 บาท) ทั่วใบหน้า เพื่อควบคุมความมันวาว และทำให้ผิวหน้ารู้สึกสดชื่น

เกลี่ย the POREfessional (ราคา 1,300 บาท) ซึ่งเป็นไพรเมอร์อันโด่งดัง เพื่อช่วยปรับผิวหน้าให้ดูเรียบเนียนพร้อมแต่งหน้า

เกลี่ยรองพื้น the POREfessional: pore minimizing makeup (ราคา 1,300 บาท)

ปัดทับเบาๆด้วยแป้งฝุ่น the POREfessional: agent zero shine (ราคา 1,250 บาท) เพื่อควบคุมความมันและเซ็ตเครื่องสำอางให้อยู่ในร่องในรอย

3 คุชชั่นนวัตกรรมของปี 2016

ทำไมกล้าดีถึงบอกว่า 3 คุชชั่นนี้เป็นนวัตกรรมของปี 2016? …ใจร่มๆ จะเล่าให้ฟัง

ตั้งแต่โลกนี้ได้ทำความรู้จักกับอุปกรณ์รองพื้นชนิดใหม่เอี่ยมเรียกกันว่า “คุชชั่น” สาวๆ ก็สนุกกับการผิวเรียบเนียนควบคู่ไปกับความฉ่ำว้าวได้แบบง่ายๆ  เข้ากับไลฟ์สไตล์สวยด่วนของสาวๆ ยุคนี้ จากบัดนั้น จนบัดนี้ คุชชั่นมีการพัฒนาในหลากหลายแบรนด์อย่างต่อเนื่องไม่แพ้ลิปสติก เพื่อให้สมกับเป็นเครื่องสำอางชิ้นใหม่ของสหัสวรรษนี้

จนทุกวันนี้หลากหลายแบรนด์สร้างสรรค์เนื้อสัมผัส ปรับปรุงการแตะแต้มให้ได้เนียบกริบยิ่งขึ้น พร้อมทั้งบำรุงผิวไปในเวลาเดียวกัน คุชชั่นแทบจะมีให้เลือกตามทุกความต้องการของสาว จนเอ๊ะ ยังมีอะไรให้รู้สึกว้าวได้อีกนะ

นี่งัย ที่ผู้เขียนกำลังจะบอก นี่คือ 3 ผลิตภัณฑ์คุชชั่นที่มาพร้อมนวัตกกรมที่น่าจับตามองที่สุดของปีนี้

innovative-cushion-01

Cushion Stick : เมื่อคุชชั่นไม่ใช่ตลับ

Estee Lauder Double Wear Nude Cushion Stick (ราคา 1,850 บาท)

ปีที่แล้ว เอสเต ลอเดอร์ เปิดศักราช เป็นเครื่องสำอางแบรนด์ยักษ์ใหญ่ฝั่งอเมริกา เปิดตัวคุชชั่นตัวแรก ที่ทั้งให้ความปกปิด ยาวนาน และยังให้ความชุ่มชื่น ใครได้ลองก็เลิฟทั่วหน้า คราวนั้นถือว่าแหวกแนวกว่าใคร เพราะเป็นคุชชั่นตลับบาง นั่นเพราะเลือกไม่รีฟิลแบบเจ้าอื่นใด

มาจนถึงปีนี้ เอสเต ลอเดอร์ ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งที่ไม่ซ้ำแบบใคร ด้วยการสร้างสรรค์คุชชั่นรูปแบบแท่ง ซึ่งมันดีอย่างไรล่ะ? เรื่องนี้เอสเต ลอเดอร์ บอกว่าเป็นการรวมทุกอย่างเข้าไว้ในแท่งเดียว ยิ่งทำให้การใช้คุชชั่นสะดวกสบายขึ้น พกสะดวกขึ้น ทำความสะอาดฟองน้ำก็ง่าย เห็นปริมาณเนื้อฟาวเดชั่นแบบไม่ต้องลุ้นว่าจะหมดหรือยัง และควบคุมปริมาณคุชชั่นได้ด้วยการหมุน และแน่นอนว่า เมื่อเป็นคุชชั่นสไตล์ดับเบิ้ลแวร์ ที่นอกจากจะช่วยการปกปิด ผิวเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ

 

 innovative-cushion-02

 

My Cushion : รักออกแบบไม่ได้ แต่คุชชั่นเลือกได้

Innisfree Longwear Cover Cushion และ Water Fit Cushion (เริ่มต้นที่ 490 บาท)

นวัตกรรมของคุชชั่นแบรนด์นี้ ไม่ใช่เรื่องของคุณสมบัติ หรือดีไซน์ แต่เป็นไอเดียเจ๋งๆ ที่เขาให้เลือก คุชชั่นแบบที่ชอบ ได้แก่ Longwear ให้การปกปิดยาวนาน กระจ่างใส และหนาแน่น (คนผิวมันเลือกแบบนี้คือดี) และ Water Fit สำหรับสาวผิวฉ่ำน้ำ แลดูสุขภาพผิวดี อุปกรณ์เสริมแบบที่ถนัด อย่างพัฟฟ์ และบลัช ที่มีให้เลือกถึง 4 แบบตามความถนัด และการใช้งานเป็นพิเศษ สำหรับไฮไลต์อยู่ที่ ตลับแบบที่ใช่ อันเนื่องมาจากความโดดเด่นของเคสที่มีให้เลือกกว่า 100 แบบ! เหมาะเจาะกับสาวๆ (และหนุ่มๆ) ยุคนี้ ที่ชอบในความ Unique หรืออะไรก็ตามที่ไม่ซ้ำแบบใคร และดูจะเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด และสุดท้ายคือจะได้เห็นความแตกต่างหากจะใช้คุชชั่นคนละสูตร คนจะเฉด จะได้ไม่หยิบผิดหยิบถูก เก๋ไปอีก

innovative-cushion-03

Japanese Cushion : พลังอาทิตย์อุทัย!

Shiseido Synchro Skin Glow Cushion Compact (ราคา 1,900 บาท)

ฟากฝั่งญี่ปุ่น หลายคนรอคอยว่าแบรนด์บิวตี้ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างชิเซโด้ ถ้าจะมาร่วมวงไพบูลย์ด้วย จะมาไม้ไหน และไม้ที่ว่าจะเด็ดดวงปานใด

และก็ไม่ทำให้แฟนๆ ที่ตั้งความหวังไว้สูงผิดหวัง เพราะชิเซโด้ขนนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูง มาสร้างสรรค์คุชชั่น โดยชูจุดเด่นช่วยปรับความเรียบเนียนตามสมดุลผิว อันเนื่องมาจากทั้งสภาพแสง ระดับน้ำมัน และความชุ่มชื่นบนผิว ที่เปลี่ยนแปลงตลอดวัน หากน้ำมันส่วนเกินน้อย อณูเม็ดแป้งจะช่วยเพิ่มความกระจ่าง หากมีน้ำมันส่วนเกินมาก อณูเม็ดแป้งจะแปรสภาพเป็นกึ่งโปร่งใส ช่วยกระจายแสง ที่ดูชุ่มชื่นแต่ไม่มันวาว ฉะนั้นไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม คุชชั่นชิเซโด้ตัวเดียวเอาอยู่ และอยู่นานถึง 8 ชั่วโมง หลายคนบอกว่าคุชชั่นชิเซโด้คุณภาพแน่นมาก ก็ต้องลองดู

 

แน่นอน ความก้าวล้ำของคุชชั่นจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ ในอนาคตอันใกล้ เหล่าแบรนด์ความงามจะต้องงัดไม้เด็ดมาสร้างสรรค์นวัตกรรมคุชชั่นให้เซอร์ไพรส์ในความเลอเลิศยิ่งๆ ขึ้น ซึ่งก็แน่นอนว่า เราท่านก็จะได้สวยกริบทุกองศาแบบไม่มีกั๊ก