Beauty Review : JTmaxwell Hair Care บทพิสูจน์ของผมนุ่มๆ มาพร้อมสุขภาพผมดีๆ

พูดกันเรื่องความสวยความงาม คนส่วนใหญ่นึกขึ้นมาก่อนเลยว่าก็ต้องดูแลผิวหน้าสิคะ หน้าสวยๆ ต้องมาก่อน แต่…ขอบอกตรงนี้เลยค่ะว่าจากการสำรวจโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความงามระดับโลกยังพบต่อไปอีกว่าความต้องการของคนจำนวนมาก คือถ้าหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ครึ่งต่อครึ่ง เขาชี้ชัดมาเลยว่า ‘ต้องการดูแลเส้นผมมากที่สุด’

Beauty Review JTmaxwell Hair Care 4

Beauty Review JTmaxwell Hair Care 5

แล้วเราก็เป็นอีกคนที่ชอบมากชอบเรื่องดูแลผมมากเป็นพิเศษ เพราะอย่างนี้ไงล่ะคะก็เลยมีโอกาสได้เจอกับ ดร.เจนนี่-เจนีตา ชอย (Dr.Jennie-Jenita Choi) เธอเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงาม JTmaxwell โดยเธอได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ในตัวแทนประเทศไทยในปี 2010 ได้รับทุนจาก APO Asian Productivity Organization ให้ร่วมโครงการดูงานวิจัยและเยี่ยมชมโรงงานที่ผลิตสินค้าชั้นนำที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับนักวิชาการและดร.จากอีก 18 ประเทศในเอเซีย

ด้วยความที่คุณเจนนี่เป็นคนที่รักและสนใจในเรื่องสุขภาพและความงาม การได้ไปเยี่ยมชมศึกษางานในครั้งนั้นจึงเป็นการจุดประกายให้คุณเจนนี่หันมาศึกษาเรื่องการนำสารสกัดจากธรรมชาติ ลดการพึ่งพาสารเคมี เรียกว่า “ขอสวยแบบไร้สารเคมี” มากยิ่งขึ้น จากการทดลองกว่า 3 ปี พร้อมกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม คุณเจนนี่จึงสร้างแบรนด์ ‘JTmaxwell’ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ

เรานั่งคุยกันไปมาได้สักพัก เหมือนคุณเจนนี่จะรู้ว่าเราน่ะเป็นคนชอบดูแลเส้นผมชอบทำผม อ๋อ! นึกได้ล่ะ ก็เพราะในวันที่คุยกันเราเพิ่งไปทำผมแบบว่าชุดใหญ่มาได้ซัก 2-3 วัน บอกเลยว่าผมเราดูสวยมากนะตอนนั้นน่ะ แต่สารภาพตามตรงว่าเราเป็นคนที่มีปัญหากับผมมาก โน้นนี่ตลอด เช่น ปลายผมแห้งมาก ผมไม่นุ่มเลย ดูไม่เป็นทรงอีก ถ้าจะให้เป็นทรงก็ต้องลงมือใส่สไตล์ลิ่ง เยอะกันไปใหญ่ แถมเวลาสระผมก็ยังเห็นผมร่วงเต็มพื้นห้องน้ำ #ปัญหาความเยอะเรื่องผม #ผมร่วงมากรู้สึกใจไม่ดี

ก็อยากนะอยากมากด้วยอยากมีผมสวยๆ แบบสวยจริงๆ จากการดูแลที่เราดูแลได้เอง ไม่ต้องเข้าร้านทำผมเพื่อทำแฮร์ทรีตเม้นต์กันบ่อยๆ…เดี๋ยวคุยงานกับคุณเจนนี่เสร็จปุ๊บ ตั้งใจว่าจะเข้าเว็บคลิกสั่งซื้อ JTmaxwell ไว้มาใช้ให้ผมสวยเหมือนกับคนอื่นเขาใช้กัน อ่านจากรีวิวคนที่ได้ใช้แล้ว #ยิ่งอ่านยิ่งอยากใช้JTmaxwell

Beauty Review JTmaxwell Hair Care 2

Beauty Review JTmaxwell Hair Care 9

 

คิดในใจอยู่แป๊บนึง…คุณเจนนี่และทีม JTmaxwell ก็จัดมาให้ลองทันทีเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวต้องขอลองใช้อย่างจริงจัง เราได้ลองแบบครบเซ็ทครบขั้นตอนการดูแลเส้นผม คือเรียกได้ว่าเขาจัดสินค้าที่เป็น Top Star ของเขามาให้เราใช้เลยค่ะ ทั้งแชมพู JTmaxwell F14 For More Hair Shampoo และอาหารผม JTmaxwell F14 For More Hair Hair Food ว่ากันว่าตัวนี้เป็นทรีตเม้นต์เร่งการงอกใหม่ของเส้นผมด้วย…ใช้ๆ รีบใช้เลย

Beauty Review JTmaxwell Hair Care 3

JTmaxwell F14 For More Hair Shampoo แชมพูที่ให้ทั้งคุณสมบัติในการรักษา สร้างผมใหม่ พร้อมทั้งบำรุงให้ความเงางาม ดูมีวอลลุ่ม มีกลิ่นหอม เพื่อการดูแลปัญหาผมขาดหลุดร่วงแรกเริ่มอย่างอ่อนโยน JTmaxwell F14 For More Hair Hair Food เป็นครีมนวดผม เป็นอาหารของผม ที่สามารถชโลมได้โดยตรงที่หนังศีรษะ สารสกัดจากแพลงตอนใต้ทะเลลึก ช่วยหยุดผมร่วง เสริมสร้างผมใหม่ สารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ ช่วยบำรุงผมให้นุ่มสลวย

Beauty Review JTmaxwell Hair Care 7

#ความรู้สึกหลังลองใช้ : ก่อนจะลง Shampoo ที่ผม เราขอเทเนื้อแชมพูออกมาดมกลิ่นหอมนิดนึง กลิ่นหอมนึกถึงธรรมชาติ พร้อมๆ กับอ่านหน้าขวดไปด้วย ‘3 พลังธรรมชาติ สารสกัดจากใต้ทะเล โสมอเมริกา โอลีฟ’ เนื้อแชมพูซึมซาบเข้าไปในเส้นผมอย่างรวดเร็ว เราสระนวดผมอย่างทั่วๆ เพลินไปกลิ่นหอมอโรม่าของแชมพู ระหว่างสระผมก็ไม่รู้สึกถึงความระคายเคืองใดๆ ทั้งสิ้น เนื้อฟองนุ่มละเอียด ล้างออกง่าย พลิ้วไหว ไหลลื่น ผมสะอาดแล้วค่ะ มาต่อด้วยการใช้ Hair Food สามารถใช้แทนครีมนวดผมที่ใช้กันอยู่ บีบออกมาจะเป็นเนื้อครีมที่มีความเบานุ่มอยู่ค่ะ ชโลมบนเส้นผมที่สระแล้วและยังสามารถลงที่หนังศีรษะได้เลย เนื้อครีมของ Hair Food ซึมเข้าสู่เส้นผมทันที แทบไม่ต้องนวดอะไรกันมาก เพียงแค่นวดไล้สัมผัสเบาๆ ให้ทั่วเส้นผม พักทิ้งไว้แป๊บนึง เราให้เวลาพักแค่ 1-2 นาที เพราะรู้สึกว่าเนื้อครีมซึมดีมาก เข้าไปบำรุงอย่างรวดเร็ว ไม่มีความรู้ระคายเคืองใดๆ

Beauty Review JTmaxwell Hair Care 8

ระหว่างไดร์ผมไป เราก็จับผมตัวเองไปด้วย สะบัดไปมา รู้สึกทันทีเลยว่าผมนุ่มขึ้น แน่นอนว่าได้รับส่วนผสมที่เหมือนเป็นอาหารดีๆ บำรุงกันอย่างเต็มที่ นุ่มจริง ผมมีน้ำหนัก เซ็ตทรงง่าย เราใช้ทั้งแชมพูและอาหารผมของ JTmaxwell อย่างต่อเนื่อง คือแค่อาทิตย์แรกเราก็รู้สึกแล้วล่ะว่าสภาพผมเราดีขึ้นอย่างรู้สึกได้ #ใช้ต่อสิคะรออะไร ทีนี้ใช้ต่อมาเรื่อยๆ ตอนนี้ใช้มาได้หนึ่งเดือนแล้วค่ะ ผลลัพธ์ที่ได้ เส้นผมมีความเงางามดูสุขภาพดี ผมเหมือนติดสปริง ผมมีน้ำหนักขึ้น จัดเซ็ตทรงก็ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้สไตล์ลิ่งเลยก็ได้นะคะ เราชอบที่ผมเราดูเป็นทรงธรรมชาติๆ อย่างนี้ ส่วนอาการคันศีรษะที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ก็หายไปแล้วค่ะ ปัญหารังแคก็ไม่มีด้วย และที่สำคัญช่วยหยุดปัญหาผมร่วงที่เราเคยเจอ ผลลัพธ์นี้เห็นชัดเจนเช่นกันค่ะ #ดีต่อใจมากมาย

 

สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ JTmaxwell ได้ที่ www.passiondelivery.com

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาทจากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5

Beauty Review: คลีนซิ่งน้ำแร่สูตรใหม่ของ La Roche-Posay

 

อะไรๆในโลกดิจิตอลทุกวันนี้มักจะมีเทรนด์ทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งเคลนเซอร์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า ก่อนหน้านี้ก็อยู่ในรูปเอสเซ้นซ์ ตอนนี้ก็มาถึงไมเซลล่าร์ วอเตอร์ (Micellar Water) กันแล้ว ไมเซลล่าร์ วอเตอร์คืออะไรน่ะเหรอ? ก็เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อยู่ระหว่างโทนเนอร์กับเคลนเซอร์ แต่มีพลังในการทำความสะอาดที่หาอะไรมาเทียบเทียมได้ยาก เนื่องจากสามารถทำความสะอาดเครื่องสำอาง (ชนิดกันน้ำก็ไม่เว้นนะ) สิ่งสกปรก และน้ำมันต่างๆได้อย่างสะอาดหมดจด โดยไม่ทำให้ผิวแห้งเสีย

 

 

ไมเซลล่า วอเตอร์ไม่ใช่โทนเนอร์ ไม่ใช่คลีนซิ่งมิลค์ และไม่ใช่เฟซวอช แต่เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชนิดที่ช่วยทำความสะอาดผิว และขจัดคราบเครื่องสำอางออกไป โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำล้างออก โดยมีส่วนผสมของ

– Micelles: เป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่เข้าไปจับสิ่งสกปรกรวมทั้งน้ำมันเอาไว้ แล้วยกตัวออกจากผิว โดยไม่ต้องถูไปถูมาอยู่บนผิว จึงช่วยให้ผิวไม่เกิดอาการระคายเคืองหรือแห้งตึง

– Poloxamer: เป็นสารทำความสะอาดชนิดหนึ่งที่ใช้ในน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ จึงสามารถทำความสะอาดได้แม้กับผิวที่แพ้ง่าย

น้ำแร่ลาโรซโพเซย์: เป็นน้ำแร่อันโด่งดังในเรื่องการปลอบประโลมผิว ต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นปราการปกป้องผิวตามธรรมชาติ

 

 

laroceposay005

 

 

ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จึงเป็นอะไรที่ใช้สะดวกสำหรับสาวๆในยุคนี้มาก และได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยม จนตอนนี้มี ไมเซลล่า วอเตอร์ในท้องตลาดอยู่มากกมายหลายสูตร ทั้งสูตรสำหรับผิวมัน ผิวผสม และผิวแพ้ง่าย

 

 

ซึ่งตอนนี้ La Roche-Posay ก็ได้ออก ไมเซลล่า วอเตอร์ที่เหนือขั้นขึ้นไปอีกออกมาแล้ว เป็นสูตรสำหรับผิวแห้งมากๆ และไวต่อการระคายเคืองง่าย ซึ่งพอผู้เขียนได้ลองใช้ก็หลงรักเลย ทำไมน่ะเหรอ? เชิญอ่านรายละเอียดได้เลย

 

 

La Roche-Posay Micellar Water Ultra Reactive Skin ขนาด 100 มล. ราคา 400 บาท และขนาด 400 มล. ราคา 1,000 บาท

 

 

larocheposay003

 

 

คืออะไร?: นี่เป็น ไมเซลล่า วอเตอร์ที่ช่วยทำความสะอาดผิวและคราบเครื่องสำอางโดยไม่ต้องใช้น้ำ แต่เหนือกว่า ไมเซลล่า วอเตอร์โดยทั่วไปตรงที่มีส่วนผสมของน้ำแร่ลาโรซโพเซย์ ที่มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน และลดอาการระคายเคืองต่างๆ แถมยังใช้เทคโนโลยี่ Glyco Micellar คือการผสานพลังไมเซลล่าและกรีเซอรีนเข้าด้วยกัน ช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์สามารถแผ่กระจายได้ดีกว่าบนแผ่นสำลี และให้สัมผัสที่ลื่นละมุนเวลาเช็ด พร้อมพลังการยึดจับเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกได้แน่นกว่า ทำให้เช็ดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบนผิวออกได้อย่างง่ายดาย

 

 

larocheposay004

 

 

ดียังไง?: ต่อขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะว่า ผู้เขียนเป็นคนที่มีผิวแพ้ง่ายมากๆ ใช้อะไรนิดอะไรหน่อยก็เกิดผื่นแดงเห่อขึ้นมาเต็มหน้าได้แล้ว กับ ไมเซลล่า วอเตอร์ก็เช่นกัน ถ้าเลือกใช้ผิดยี่ห้อผิดสูตร ก็เตรียมตัวไปพบหมอผิวหนังได้เลย! แต่กับ ไมเซลล่า วอเตอร์สูตรใหม่ของ La Roche-Posay ขวดนี้ สามารถพูดได้เต็มปากว่าไม่ได้สร้างความระคายเคืองใดๆให้ผิวแม้แต่น้อย แถมยังทำให้ผิวหน้ารู้สึกสะอาดหมดจดด้วยการเช็ดเพียงแค่ทีสองที ใช้เสร็จแล้วผิวก็ไม่แห้งตึงด้วย เริ่ดจริงๆ! ตอนนี้จะมีขวดเล็กๆวางไว้ตรงหัวเตียงด้วยนะ เผื่อวันไหนกลับบ้านดึกๆ แล้วขี้เกียจล้างหน้า ก็แค่หยด ‘ไมเซลล่า วอเตอร์‘ บนแผ่นสำลี แล้วเช็ดหน้าแค่ทีสองทีก็ล้มตัวนอนได้แล้ว!

 

 

larocheposay002

 

 

วิธีใช้: ใช้แผ่นสำลีชุบ ไมเซลล่า วอเตอร์ให้ชุ่ม แล้วเช็ดทำความสะอาดผิวบริเวณใบหน้า โดยเน้นเป็นพิเศษบริเวณรอบดวงตาและปาก โดยไม่จำเป็นต้องล้างน้ำตาม