กลิ่นอาหารหอมกรุ่น ลอยมาแตะจมูกเบาๆ เมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้านสวยหลังนี้ และยิ่งหอมขึ้นเมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ Island Kitchen ที่เป็นเหมือนครัวในฝันของบรรดาคนชอบทำอาหารทั้งหลาย
คุณอี๊ด หรือเชฟจินตนา วงศ์วิวัฒน์ กำลังปรุงอาหารที่ส่งกลิ่นหอม จนยวนเย้าความรู้สึกให้อยากลิ้มรส แม้ฉันจะอิ่มจากมื้อเช้ามาแล้วก็ตาม คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าสำหรับคนที่กำลังหิวกิ่วท้อง กลิ่นนี้คงเป็นเหมือนกลิ่นที่ลอยมาจากสวรรค์ยังไงยังงั้น
ความรักในอาหารและการทำอาหารของคุณอี๊ด เริ่มบ่มเพาะมาตั้งแต่เธอมีลูก จากความรักที่นำมาสู่ความต้องการทำอาหารอร่อยๆ ดีๆ ให้ลูกรับประทาน ในสมัยที่ไม่มี You Tube ให้เลือกเปิดดูแล้วทำตาม คุณอี๊ดจึงทำอาหารตามสูตรและตำราเท่าที่หามาได้ “ซึ่งเมื่อทำตามสูตรเหล่านั้น ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นเยอะ จนสะสมเป็นความรู้สึกเหมือนคับข้องใจ” จนเมื่อลูกสาวทั้งสองเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศแล้วนั่นละ คุณอี๊ดจึงคิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่จะเลือกทำในสิ่งที่ชอบและดีที่สุดสำหรับตัวเอง ด้วยการตัดสินใจสมัครเข้าเรียนที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ (Le Cordon Bleu) “ความรักในอาหารชัดเจนขึ้นตอนไปเรียนนี่ละค่ะ รู้ว่าชอบและมีความสุขเหลือเกิน รู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ให้ตัวเองได้ไปเรียน”
Beetroot Soup with Dill ซุปบีทรูทสีสวย วางอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว โดยฝีมือของคุณอี๊ด สร้างความสดชื่นด้วยความกลมกล่อมของรสชาติในสัมผัสของหัวพืชสีสดนี้ อีกทั้งก่อนหน้ายังมี Tomato Skillet Pie ที่เสิร์ฟมาในกระทะเหล็กหล่อใบย่อมสีสวย ต่างช่วยเติมให้ความสุขในการลิ้มรสความอร่อยเพิ่มมากขึ้นทีละเล็กละน้อย
ทั้งสองเมนูแสดงให้เห็นถึงความรัก ความชำนาญ และความปราณีตในการทำอาหารของสุภาพสตรีผู้นี้เป็นอย่างดี นอกจากพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบ การปรุงแต่งรสชาติให้กลมกล่อมพอดี ยังมีสีสันที่สวยงาม และสัมผัสที่รู้สึกได้ถึงคุณค่าจากธรรมชาติที่ยังคงอยู่ในอาหารทุกจาน
“การทำอาหารให้อร่อย เราต้องรู้จักวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสต่างๆ อย่างถ่องแท้ นอกจากนั้นแล้ว เครื่องครัวที่ดีก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลย” นี่คงเป็นเหตุผลที่คุณอี๊ดเลือกใช้เครื่องครัวที่ทำจากเหล็กหล่อของ เลอ ครูเซ่ (Le Creuset) “เป็นแบรนด์ในฝันของคนทำอาหารทุกคน ตอนที่เรียนก็เห็นเชฟใช้ ซึ่งเขาไม่ค่อยปล่อยให้นักเรียนชั้นเบสิกใช้ แต่จะให้ในชั้นซูพีเรียทำ เพราะความที่เป็นเครื่องครัวที่ดีมากและมีราคา แต่เป็นสิ่งจำเป็นในการทำอาหาร”
แม้คุณอี๊ดจะมีเลอ ครูเซ่มานานก่อนเข้าเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ แต่ได้ใช้ทำเพียงไม่กี่เมนู “ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่พอเข้าไปเรียนจึงรู้เลยว่า โอโห เลอ ครูเซ่ ใช้ทำอาหารได้หลากหลายมาก ทั้งอาหารคาว ของหวาน ขนมปัง เค้ก และจนทุกวันนี้ก็ยังค้นพบเมนูใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เครื่องครัวของแบรนด์นี้อยู่เรื่อยๆ”
ด้วยความเป็นภาชนะที่ทำจากเหล็กหล่อ ทำให้เลอ ครูเซ่เป็นทั้งเครื่องครัวที่ทนทาน สามารถใช้ได้กับเตาไฟทุกชนิด รวมทั้งเข้าเตาอบได้ด้วย ยกเว้นเพียงห้ามนำเข้าไมโครเวฟเท่านั้น
ชื่อเสียงที่มีมานานตั้งแต่ปี 1925 ได้รับการยอมรับจากบรรดาเชฟ และผู้ที่ชอบทำอาหารทั่วโลก เราจึงมักเห็นเครื่องครัวที่เป็นภาชนะเหล็กหล่อสีส้ม Flame สีแดง Cerise หรือสีอื่นๆ อย่างขาว ชมพู เหลือง ฟ้า ใช้อยู่ในครัวของโรงแรมมากดาว ในครัวของเชฟ และในบ้านของเซเลบริตี้ที่ชอบทำอาหารทั่วโลก
คุณยุ้ย-รตาภัท สาหร่ายทอง Sales & Marketing Manager ของเลอ ครูเซ่ ประเทศไทย เล่าถึงรายละเอียดลึกๆ ให้ฟังว่า “โรงงานและฐานการผลิตอยู่ที่เมือง Fresnoy-le-Grand ในประเทศฝรั่งเศส ที่เดียวเท่านั้น เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1925 หรือเกือบ 100 ปีแล้ว และปัจจุบันได้ส่งออกไปจำหน่ายกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
การผลิตใช้ทั้งแรงงานฝีมือและเครื่องจักร โดยเริ่มจากการนำเหล็กมาหลอมที่อุณภูมิสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส และนำไปหล่อลงแม่พิมพ์ที่ทำจากทราย (sand mould) หลังจากเหล็กแข็งตัวแล้ว ก็จะแยกทรายออกแล้วนำทรายกลับไปใช้ใหม่ จากนั้นช่างฝีมือจะทำการเช็คคุณภาพก่อนการนำไปเคลือบอินาเมล กระบวนการต่อไปคือการเคลือบอินาเมล ซึ่งเคลือบทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกันคือ 1. เคลือบอินาเมลทั้งด้านนอกและด้านในเพื่อป้องกันการเกิดสนิม 2. เคลือบอินาเมลที่มีส่วนผสมของแก้วที่มีขนาดเล็กมาก( powdered glass chips) และเม็ดสี เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน 3. เคลือบอินาเมลชั้นสุดท้าย คือการเคลือบสีด้านนอกที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นสีที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและไม่เหมือนใครของเลอ ครูเซ่ หลังจากเคลือบอินาเมลจึงนำไปอบที่อุณหภูมิ 840 องศาเซลเซียส เพื่อให้ได้สีที่เรียบและเงางาม”
ทำไมหม้อเหล็กหล่อของเลอ ครูเซ่ถึงเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน นั่นก็เพราะเป็นเครื่องครัวที่มีความแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานหลายสิบปี เหล็กหล่อเคลือบด้วยอินาเมล ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเมื่อโดนความร้อน หม้อเหล็กกระจายความร้อนได้ทั่วถึง ทำให้อาหารสุกทั่วและเท่ากัน ประหยัดพลังงาน เก็บความร้อนได้นาน หากทำอาหารแบบตั้งเตาแล้วจะนำไปเข้าเตาอบ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนภาชนะ เมื่อทำเสร็จสามารถนำมาตั้งบนโต๊ะอาหารพร้อมเสิร์ฟได้เลย เพราะดีไซน์และสีสันที่สวยงาม หรือจะนำอาหารไปแช่ตู้เย็นก็ทำได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนภาชนะ
“เวลาเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร ก็เก็บความร้อนไว้ได้นานด้วยค่ะ อาหารจึงยังอุ่นอยู่ ยุ้ยเคยใช้หม้อ Round French Oven ของเลอ ครูเซ่หุงข้าว โดยใส่ข้าวและน้ำลงไป เปิดไฟระดับกลางประมาณ 1 นาทีจนเดือด จากนั้นใช้ตะเกียบคนจนถึงก้นหม้อสัก 1 นาที แล้วเบาไฟ และตั้งไฟอีกประมาณ 5 นาที จากนั้นปิดไฟเลย แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ก็เปิดฝาจะมีกลิ่นหอมมาก เนื่องจากรสชาติถูกล็อกไว้ในหม้อ แถมวางทิ้งไว้เป็นชั่วโมง ข้าวก็ยังอุ่นอยู่เลยค่ะ”
ภาชนะที่ทำจากเหล็กหล่อ นับเป็นภาชนะที่กระจายและเก็บความร้อนได้ดีมาก ยิ่งกับอาหารประเภทตุ๋น หรือ Slow Cook ด้วยแล้ว ถือว่าเลิศที่สุด เพราะสามารถเก็บรสชาติและคุณค่าอาหารได้อย่างครบครัน
ชิ้นแรกที่ควรมีไว้ในครอบครอง คุณยุ้ยแนะนำว่าต้องเป็น Round French Oven เพราะทำได้ทั้งของคาว ของหวาน ขนมปัง เค้ก ต้ม ตุ๋น ผัด ใบเดียวทำได้ทุกอย่างสารพัดเมนู
…มาถึงคราวของอาหารหวาน คุณอี๊ดอบเค้กช็อกโกแลตไส้ลูกพรุนแช่วิสกี้ด้วยหม้อเหล็กหล่อของเลอ ครูเซ่ ผลลัพธ์คือ ความนุ่มและชุ่มฉ่ำของเนื้อสัมผัสที่กลมกลืน เสริมรสชาติของเค้กให้ยิ่งอร่อยละมุนอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
คุณอี๊ดเชื่อว่าอุปกรณ์เครื่องครัวดีๆ ยังสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วไป ที่ไม่ได้เป็นเชฟหรือชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจเท่านั้น แต่รวมถึงคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเพราะทำงานนอกบ้าน หรือไม่ค่อยได้ทำอาหารรับประทานเอง รู้สึกอยากที่จะเริ่มทำอาหารง่ายๆ ทานเองที่บ้าน หรือให้คนในครอบครัวได้รับประทานกันด้วย “เครื่องครัวดีๆ ช่วยในการทำอาหารได้มากจริงๆ ยิ่งเมื่อเราทำเสร็จแล้ว อาหารออกมาดูดี รสชาติอร่อย เราก็จะอยากลองทำเมนูอื่นๆ ต่อไปอีก”
สำหรับสุภาพสตรีคนนี้ การทำอาหารคือ ความสุข สามารถสร้าง Self-esteem ให้กับตัวเอง และยังสร้างมิตรภาพที่ดีให้เกิดแก่กันได้อีกด้วย “การได้ไปเรียนทำอาหาร จนเรารู้ว่าอาหารชนิดนี้ทำอย่างไร แค่เห็นหรือนึกถึงอาหารแบบไหนก็ลุกขึ้นมาทำได้ เพราะเรามีความรู้ในสิ่งที่เรารัก ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่เรียกว่า Self-esteem หรือการเห็นคุณค่าและเคารพนับถือตัวเอง การพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมที่มีการชิงดีชิงเด่นก็น้อยลง เพราะเรามีความสุข มั่นใจ ภูมิใจในตัวเอง ไม่เกลียดหรืออิจฉาใคร คุณลองสังเกตคนที่มี Self-esteem ดูสิ คนที่เก่งจริง เขาจะไม่จุกจิก ไม่งี่เง่า ดราม่า ไร้สาระ หรอกค่ะ”
“การทำอาหารยังเป็นการสร้างเพื่อนด้วย เวลาคุณทำอาหารจะมีแต่คนรัก บางครั้งอาจไม่อร่อยเท่าไรหรอก แต่คนรับเขารู้สึกได้ เพราะมันมีจิตมีใจอยู่ในนั้น ไม่เฉพาะทำให้คนในครอบครัว เพื่อนฝูง แต่สามารถกระจายไปได้ไม่สิ้นสุด ถึงเพื่อนบ้าน ผู้ที่มีบุญคุณ คนที่ลำบากกว่าเรา”
คุณอี๊ดเปรียบให้เห็นภาพว่า ช่วงหนึ่งของชีวิตที่คิดอยากได้กระเป๋าแบรนด์เนมใบใหม่ อยากได้รถคันใหม่ แต่มาถึงเวลานี้ สิ่งเหล่านั้นกลับมีคุณค่าน้อยลง แถมยังอาจทำให้คนหมั่นไส้ กลายเป็นการสร้างศัตรูทางอ้อม แต่การมีเครื่องครัวดีๆ ที่สามารถช่วยให้การทำอาหารอร่อยขึ้น กลับเป็นสิ่งที่เธอปรารถนามากกว่า “คุณทำอาหาร คุณเอาไปให้เพื่อน เพื่อนก็รักคุณ ทำอาหารให้ลูก สามี รับประทาน ครอบครัวก็มีความสุข ทำไปให้เพื่อนบ้าน เดี๋ยวเขาก็ให้กลับมา สร้างแต่มิตรจิตมิตรใจ ไม่มีพิษภัยกับใครเลย …สำหรับดิฉัน อาหารมีแต่ให้ความสุขทั้งนั้น”
ทุกเมนูที่ได้รับจากคุณอี๊ดในวันนี้ ตอกย้ำความคิดนั้นได้ชัดเจนที่สุดแล้ว
สอบถามข้อมูล หรือติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์เครื่องครัว เลอ ครูเซ่ได้ที่ Facebook:https://Facebook.com/LeCreusetThailand
Instagram: https://www.instagram.com/lecreuset_thailand
Line: Le Creuset Thailand
Tel No.: +669 3131 8876