8 สัญญาณระดับน้ำตาลในเลือดสูง
March 25th, 2019
ความหวานที่ไม่มีใครอยากได้เลยก็คือ ระดับน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งถ้าเราไม่เจอแบบนี้ได้เป็นดีที่สุด เพราะการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นสาเหตุของความเสียหายหลายอย่างกับสุขภาพร่างกายและไม่ว่าคุณจะเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ก็ตาม ระดับน้ำตาลที่สูงมากในเลือด ก็ทำให้เกิดความเสียหายทั้งกับระบบประสาท, เนื้อเยื่อ, หลอดเลือด ฯลฯและที่อันตรายก็คือเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดไม่ยอมลดลงยังสูงอยู่เป็นเวลานานๆทีนี้แหละค่ะที่ปัญหาซีเรียสต่างๆของสุขภาพก็จะเกิดขึ้นตามมา
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ( Hyperglycaemia) คืออะไร
คำๆนี้ เป็นศัพท์ทางการแพทย์หมายถึงเมื่อร่างกายมีสภาวะระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดเพิ่มสูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของคนที่เป็นโรคเบาหวาน ภาวะนี้สามารถส่งผลกระทบสุขภาพได้ทั้งคนที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 คือชนิดที่ร่างกายไม่ผลิตอินซูลินและชนิดที่ 2 คือชนิดที่ร่างกายผลิตอินซูลินน้อยเกินไป ทั้งยังรวมไปถึงผู้หญิงที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์อีกด้วย ซึ่งหากไม่ได้รักษาให้ถูกต้อง ความเสียหายสุขภาพอีกมากมายก็จะตามมา เช่น การเสียหายของดวงตา เส้นประสาท ไตและหลอดเลือด ฯลฯ
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนส่วนมากต้องพบปัญหาสุขภาพจากระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็คือการขาดความรู้และไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับอันตรายของมันให้มากพอ ทำให้ปล่อยปละละเลย ทั้งยังไม่ได้สังเกตถึงสัญญาณที่ร่างกายได้เตือนให้รู้ล่วงหน้าอีกด้วยดังนั้นเพื่อรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้ปลอดภัยและรักษาระดับของน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในสมดุลที่ดี เราจึงควรเอาใจใส่กับสัญญาณที่ร่างกายบอกล่วงหน้าเมื่อเกิดปัญหานี้
1. กระหายน้ำตลอดเวลา: สาเหตุคือเรื่องของอาการปัสสาวะมากที่เรียกว่าโพลียูเรีย ( polyuria)ที่มีสาเหตุมาจากเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นสูง ไตของเราก็จะไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ได้ดังนั้น ไตจึงผลิตปัสสาวะปริมาณมากขึ้นเพื่อขจัดกลูโคสส่วนเกินที่ไตไม่สามารถดูดซึมได้สิ่งนี้ทำให้รู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา โดยปกติ ค่าเฉลี่ยของปัสสาวะในผู้ใหญ่ไม่ควรเกินวันละ 3 ลิตร ซึ่งหากมากกว่านั้นก็อาจเป็นสัญญาณนี้ก็ได้
2. บริโภคอาหารมากขึ้น: พฤติกรรมการบริโภคอาหารปริมาณมากขึ้นกว่าเดิม แสดงว่าคุณอาจมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติก็ได้เพราะกลูโคสจากอาหารที่ถูกย่อยไม่สามารถถูกนำไปหล่อเลี้ยงเซลล์ได้ซึ่งอาจเป็นเพราะการขาดอินซูลินหรือร่างกายเกิดสภาวะดื้อต่ออินซูลิน ( insulin resistance)ทำให้ไม่สามารถแปรสภาพอาหารที่บริโภคให้กลายเป็นพลังงานทำให้รู้สึกไม่มีแรงหรืออ่อนเพลียกว่าปกติ จึงต้องการอาหารมากขึ้นเพื่อจะนำไปผลิตกลูโคส ทำให้เราต้องบริโภคอาหารมากกว่าที่เคย
3. ปัสสาวะบ่อย: สัญญาณนี้เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการกระหายน้ำที่เกิดขึ้น นั่นคือไตของเราไม่สามารถดูดซึมและแปรสภาพน้ำตาลส่วนเกินได้ ดังนั้น ทางเดียวที่มันจะสามารถขจัดน้ำตาลนี้ออกไปได้ก็คือผ่านออกมาทางปัสสาวะจึงควรหมั่นสังเกตเวลาที่คุณเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะหากพบว่ามันถี่กว่าปกติเช่นทุกๆชั่วโมงละก็ คุณอาจกำลังมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปก็เป็นได้ซึ่งคำแนะนำที่ดีที่สุดก็คือไปพบแพทย์เพราะมันอาจหมายถึงปัญหาสุขภาพที่มากกว่านั้น
4. เหนื่อยเรื้อรัง: เราอาจเคยคิดว่าการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะทำให้มีพลังงานมากขึ้นแต่จริงๆแล้วตรงกันข้าม เพราะเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง เราก็จะปัสสาวะบ่อยขึ้นและก็จะหิวน้ำบ่อยขึ้น เพราะไตไม่สามารถดูดซึมกลูโคสและนำไปแปรสภาพเป็นพลังงานเมื่อไม่มีพลังงาน ร่างกายก็จะรู้สึกอ่อนแรงและเหนื่อยตลอดเวลา
5. เห็นภาพเบลอ: เมื่อน้ำตาลในเลือดสูง มันก็จะทำให้เลนส์ของนัยน์ตามีบวมตัวขึ้น การมองเห็นภาพของเราก็จะเบลอไม่ชัดเจนซึ่งมันอาจเป็นได้ชั่วคราวหรือตลอดไป ควรพบแพทย์เพื่อรักษาอาการนี้
6. ผิวแห้ง: หากพบว่าสัญญาณนี้เกิดขึ้นกับผิว แสดงระดับน้ำตาลในเลือดของเราอาจมีระดับสูงมาระยะหนึ่งแล้วทั้งนี้เพราะระดับน้ำตาลที่สูงทำให้เส้นประสาทเกิดความเสียหายและร่างกายสูญเสียน้ำเร็วกว่าเดิมซึ่งถ้าเป็นแบบนี้นานๆ ระบบประสาทก็จะเสียหายถาวรและผิวหนังก็จะมีความแห้งเกิดขึ้น
7. สมรรถภาพทางเพศลดลง: สำหรับผู้ชายก็คือไม่สามารถควบคุมการหลั่งได้ เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดบกพร่องจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงที่ไปขัดขวางการไหลเวียนทำความเสียหายให้กับระบบประสาทและหลอดเลือดของอวัยวะต่างๆด้วย
8. น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น: เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง โอกาสที่ร่างกายจะเกิดสภาวะดื้อต่ออินซูลิน(insulin resistance) ก็เป็นได้มากขึ้นและเมื่อเกิดขึ้น เซลล์ของร่างกายก็จะไม่มีการตอบรับกับอินซูลินอีกต่อไปทำให้มันยากมากที่เซลล์ในร่างกายจะนำกลูโคสจากกระแสเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆและจากสิ่งนี้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราเริ่มสะสมตัวสูงขึ้นๆไปเรื่อยๆตามเวลา ทำให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งหมดที่เล่ามานี้ คือสัญญาณของการที่ร่างกายเตือนเราเมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง สาเหตุของสิ่งนี้ก็คือโภชนาการที่บกพร่องเป็นสาเหตุหลักการบริโภคอาหารที่ผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนหรืออาหารสำเร็จรูปนอกบ้าน ที่เราไม่ทราบขั้นตอนและส่วนผสมในการปรุงเป็นประจำ ตลอดจนอาหารที่มีแคลอรี่สูง ล้วนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ทั้งนั้นเพราะอาหารเหล่านี้ร่างกายก็จะย่อยมันอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ดีเพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นฮวบฮาบ ทั้งยังไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลวให้สูงขึ้นได้เช่นกัน
นอกจากนี้ น้ำตาลในเลือดสูงก็ยังมีสาเหตุอื่นๆได้แก่ ความเครียด, ความเจ็บป่วยจากโรคบางอย่างเช่น ไข้หวัด, การขาดการออกกำลังกาย, ภาวะขาดน้ำ, การได้รับยาสเตียรอยด์หรือยาบางชนิด รวมทั้งการรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ( Hypoglycaemia) ด้วยวิธีที่รุนแรงเกินไป ก็อาจทำให้เกิดภาวะนี้ได้ ซึ่งหากคุณพบสัญญาณเตือนเหล่านี้ ก็ควรเปลี่ยนแปลงอาหารที่บริโภค เลี่ยงอาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นเช่นน้ำอัดลม, ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การเดินเร็วๆวันละ 30-45นาทีขึ้นไป ก็จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ทั้งช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ด้วย และหากรู้สึกว่าตัวเองมีความเสี่ยง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ ก็จะป้องกันได้ดีที่สุด
เล่ามาทั้งหมดนี้
เอาเป็นว่าถ้ามีหนุ่มๆให้ชอคโกแล็ตมา สาวๆก็ควรบริโภคแค่ชิ้นสองชิ้น แล้วเก็บความหวานไว้ที่หัวใจไม่ใช่ที่ในกระแสเลือดของเรา ก็จะหวานกันได้สุขภาพดีกว่านะคะ