2018 ..ปีแห่งรูปร่างดีที่สุดของคุณ
January 5th, 2018
สวัสดีปีใหม่ค่ะ หลังจากที่ผ่านช่วงฉลองปีใหม่ ที่เต็มไปด้วยอาหารอร่อยๆและคุณก็ฉลองกับมันไปแบบไม่ยั้งกันมาแล้ว ทีนี้ก็มาถึงเวลาที่คุณจะต้องมาตั้งโหมดไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เพื่อให้มีรูปร่างเพรียวสวยกันเสียที แน่นอนค่ะว่ามันไม่ได้ยาก ถ้าเราจะเซ็ททัศนคติกันใหม่ตามนี้… จัดเลย!
1. บอกตัวเองว่า “ ฉันกำลังอยู่ในระหว่างการคุมน้ำหนัก” ไว้ตลอดเวลา
นั่นก็เพราะว่า เวลาที่คุณมีความคิดแบบนี้อยู่ในใจ มันก็จะทำให้คุณระลึกอยู่เสมอ ว่าคุณต้องบริโภคแต่โภชนาการที่ดี แล้วทีนี้คุณก็จะมีการวางแผนก่อนจะหยิบอะไรเข้าปาก คุณอาจบอกว่าการบริโภคตามใจปากคือความสุข แต่การวางแผนก่อนบริโภคนี่ก็ไม่ได้ทำให้ความสุขที่ว่านี้น้อยลงนะคะ ตรงกันข้าม มันกลับจะทำให้คุณพบความสุขในระยะยาวได้มากกว่าด้วยซ้ำ การวางแผนและคิดล่วงหน้า จะช่วยให้เราตัดอาหารที่ไม่จำเป็นออกไป ซึ่งนี่ไม่ใช่การบังคับตัวเองแบบไม่มีเหตุผล แต่มันคือการหาสมดุลระหว่างอาหารที่คุณห้ามใจตัวเองไม่ได้ กับอาหารที่ควรบริโภคเพื่อสุขภาพที่ดี แน่นอนมันไม่มีเหตุผลใดๆที่จะทำให้คุณโยนอาหารใดๆทิ้ง เพียงแต่จำกัดปริมาณและเวลาที่จะบริโภคให้เป็นที่เป็นทางขึ้นเท่านั้น
2. เคลื่อนไหวร่างกายให้บ่อยขึ้น
อย่าอ้างว่าร้อนไปหรือหนาวไปทำให้คุณนั่งหรือนอนจมอยู่กับที่เป็นเวลานานๆ เพราะกุญแจสำคัญของสุขภาพดีและรูปร่างผอมเพรียว ก็คือการขยับลุกเดินให้บ่อยๆ และนั่งอยู่กับที่ให้น้อยลง เมื่อรู้แล้วก็ให้หาเรื่องลุกจากโต๊ะทำงานให้มากขึ้น เพราะจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยควีนสแลนด์ ออสเตรเลีย ระบุว่า คนที่ลุกจากที่นั่งประจำและเดินไปไหนๆแม้เพียงนาทีเดียวเท่านั้น ก็จะมีเส้นรอบเอวที่น้อยกว่า โดยมีการทดลองกับคน 100 คน และให้ 25 คนที่ใช้เวลาพักเบรกลุกขึ้นเดินไปไหนๆเป็นเวลา 1-2 นาทีทุกๆวัน ในขณะที่อีก 75 คนนั่งติดกับโต๊ะ ก็พบว่าคนกลุ่มแรกจะมีเส้นรอบเอวเฉลี่ยน้อยกว่ากลุ่มหลังถึง 4.1 ซม.ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเวลาที่คุณนั่ง ระบบการไหลเวียนต่างๆของร่างกายก็จะชลอตัวช้าลง โดยเฉพาะระบบการเผาผลาญอาหารที่จะช้าลงถึง 21% ทำให้คุณสะสมแคลอรี่ไว้มากขึ้น
3. ฟังเสียงความต้องการของร่างกายให้มากขึ้น
ในนาทีที่คุณห้ามร่างกายจากการบริโภคอาหารบางอย่าง เมื่อทำแบบนั้น ก็จะทำให้ร่างกายยิ่งหิวโหยและต้องการบริโภคอาหารนั้นๆมากขึ้น เพราะคำว่า “ไม่ได้” จะยิ่งไปสนับสนุนสัญชาตญาณให้พยายามหาทางออกมากขึ้น นี่คือทฤษฎีจิตวิทยาพื้นฐานความต้องการที่เรียกว่า ทฤษฎีแรงต้านทานทางความคิด หรือ Reactance Theory ที่มีอยู่ในสัญชาตญาณของมนุษย์ที่รักอิสระไม่ชอบการถูกบังคับ ดังนั้น การบอกว่า “ไม่ได้” ก็คือการทำให้ความต้องการยิ่งเพิ่มขึ้น วิธีที่ถูกก็คือ ให้จัดระดับความหิวของคุณในเวลานั้นว่ามากแค่ไหนโดยเรตติ้งมันตั้งแต่ 1 -10 และแทนที่จะปฏิเสธการบริโภคอย่างสิ้นเชิง ก็ให้ฟังเสียงร่างกายและบริโภคมันโดยไม่ต้องรู้สึกผิด ยังมีอีกเทคนิคหนึ่งก็คือ หาอาหารทดแทนเพื่อไมให้ร่างกายต้องได้รับแคลอรี่มากเกินไป เช่นหากคุณอยากขนมหวานจัดๆ ก็ให้เปลี่ยนเป็นผลไม้แทนก็จะช่วยได้ หรือใช้ทฤษฎี “ ครึ่งจาน” โดยการเติมผักผลไม้หรือสลัดลงไปและให้ใส่อาหารที่คุณอยากบริโภคเพียงครึ่งจาน ก็เป็นวิธีช่วยประนีประนอมได้อีกวิธีหนึ่ง
4. จัดบ้านให้ “เข้าทาง” ของคุณ
ฟังดูไม่น่าเกี่ยวกัน แต่จริงๆแล้วคุณรู้ไหมคะว่า พฤติกรรมการบริโภคมากเกินไปนี่ บางทีมันก็ไม่ได้อยู่ที่ความต้องการของร่างกาย แต่มันอยู่ที่สภาพแวดล้อมของบ้านหรือออฟฟิศของคุณต่างหาก ที่ทำให้พฤติกรรมการบริโภคอาหารของคุณมากขึ้นเพราะคุณสามารถ “หยิบ” ของใส่ปากได้สะดวกตลอดเวลา เรื่องนี้มีการศึกษาพบว่า ในวันหนึ่งๆเรามีการเลือกเงื่อนไขต่างๆของอาหารที่จะบริโภคนี้มากกว่า 200 ครั้ง เอาง่ายๆเช่น จะทานสลัดหรือมันทอดดี? จะเอาไซส์ใหญ่หรือไซส์กลาง? จะกินให้หมดถุงหรือจะเก็บไว้กินวันหลังต่อดี? ซึ่งการตัดสินใจเลือกคำตอบเหล่านี้ ล้วนมาจากสภาพแวดล้อมในเวลานั้นทั้งสิ้น ดังนั้น หากเราจัดการกับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม เช่นเก็บขนมขบเคี้ยวไว้ในตู้ไม่ให้วางล่อใจ คุณก็จะไม่ต้องหยิบมันใส่ปากได้ง่ายๆจากความเคยชิน แล้วคุณก็จะมีพฤติกรรมการบริโภคที่ดีขึ้น
เห็นไหมคะว่าแค่ 4 เรื่องนี้ที่ไม่ยากเย็น แต่มันให้ผลดีมากมายทั้งหุ่นสวยและเรื่องสุขภาพที่ดี นี่ขนาดยังไม่ได้ออกไปเข้ายิมเลยด้วยซ้ำ ลองเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการทำตามคำแนะนำเหล่านี้ดูนะคะ รับรองว่าถ้าทำได้ จะเป็นปีนี้หรือปีไหนๆ คุณจะมีรูปร่างสวยและสุขภาพดีได้ไม่ยากเลยค่ะ