มะเร็งเต้านม…ปฎิบัติการลดความเสี่ยงโรคร้ายได้ด้วยตัวคุณเอง
October 9th, 2017
จากครั้งก่อนในเรื่องความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม วันนี้จะเป็นเรื่องของการปรับพฤติกรรมประจำวัน เพื่อให้ผู้หญิงลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายนี้ได้ด้วยตัวเราเอง ด้วยไลฟสไตล์ต่อไปนี้…
1. ออกกำลังกายวันละอย่างน้อย 15 นาทีเป็นประจำ: ไม่ว่าจะเป็นการเดินเร็วๆ, วิ่งจ๊อกกิ้ง, ว่ายน้ำ หรือเต้นแอโรบิก ทั้งหมดนี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านมให้เราได้ถึง 20 % โดยเฉพาะในช่วงหลังวัยทอง ซึ่งผู้หญิงมักถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งไม่ใช่แค่เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้เราลดน้ำหนักลงได้เท่านั้น แต่การที่เรามีกิจกรรมขยับเขยื้อนร่างกาย ก็ยังช่วยให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเป็นไปอย่างสมดุลอีกด้วย
2. บริโภคอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนเป็นหลัก: อาหารเมดิเตอร์เรเนียนใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพโภชนาการที่ดีคือน้ำมันมะกอก ที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมลงได้ 68 % เพราะน้ำมันนี้จะไปช่วยยับยั้งความตื่นตัวของยีนและโปรตีนที่มีบทบาทไปพัฒนาการก่อตัวของมะเร็ง นอกจากนี้ อาหารเมดิเตอร์เรเนียนก็ยังประกอบด้วยพืชผักเป็นส่วนใหญ่ซึ่งพืชผักเหล่านี้ล้วนมีสารต้านมะเร็ง ควรบริโภคเนื้อปลาและเนื้อไก่ลอกหนังสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จำกัดการบริโภคเนื้อสัตว์แดงให้น้อยลงและใช้สมุนไพรกับเครื่องเทศปรุงรสแทนเกลือจะดีที่สุด
3. บริโภคมื้อเย็นให้เร็วขึ้น: ยิ่งบริโภคมื้อเย็นให้เร็วขึ้นได้เท่าไหร่ ก็หมายความว่าจะมีเวลาให้กระเพาะอาหารได้พักผ่อนในช่วงกลางคืนยาวนานกว่า ในช่วงเวลาระหว่างมื้อเย็นกับมื้อเช้า การทำแบบนี้จะช่วยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดให้ต่ำลง ซึ่งหากน้ำตาลในกระแสเลือดมีระดับสูง ความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมก็จะสูงตามไปด้วย ควรให้ร่างกายได้มีเวลาปลอดอาหารประมาณ 10 – 12 ชั่วโมงในแต่ละคืน
4. ไปตรวจแมมโมแกรม: แมมโมแกรมเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ใช้ตรวจหามะเร็งเต้านม การตรวจนี้จะช่วยให้เรารู้ตัวและรักษาได้แต่เนิ่นๆ ในระยะที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การตรวจแมมโมแกรมทุกๆ 1-2 ปีจะทำให้ผู้หญิงลดอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคนี้ลง จากสถิติพบว่า ผู้หญิงในช่วงอายุ 50 -74 ปี หากตรวจแมมโมแกรมในทุกๆ 2 ปี ก็จะให้ผลลดความเสี่ยงได้ดีที่สุด แต่จะให้ดีแล้ว ควรเริ่มตรวจแมมแกรมทุกๆ 2 ปีเมื่อคุณอายุ 40 ปีขึ้นไป
นอกจากไลฟสไตล์ลดความเสี่ยงที่บอกมาแล้ว ก็อย่าลืมที่จะหมั่นตรวจตราด้วยการคลำเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำด้วย การคลำจะทำให้เราพบความผิดปกติแต่เนิ่นๆ และควรสนใจกับเรื่องอื่นๆของเต้านมด้วยเช่น สีผิวหรือรูปร่างเปลี่ยนไปจากเดิมไหม หัวนมมีการแตก มีรอยแดงหรือหัวนมกลับบุ๋มเข้าไปด้านในหรือเปล่า มีของเหลวหลั่งออกมาจากหัวนมโดยที่ไม่ได้ไปบีบหรือสัมผัสใดๆหรือไม่ หรือมีความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนานๆ รวมทั้งการเปลี่ยนไปของผิวเต้านมที่อาจขรุขระหรือผิดจากเดิมเช่นมีสีแดงหรือตำแหน่งใดๆผิดไปจากปกติ เหล่านี้ก็ต้องสังเกตสม่ำเสมอด้วยเหมือนกัน
คราวหน้า ซึ่งยังอยู่ในเดือนตุลาคมแห่งการรณรงค์นี้ เราจะมาคุยกันเรื่องข่าวดีของการรักษาและตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยเทคโนโลยีของนวัตกรรมใหม่ ที่สามารถตรวจหามะเร็งเต้านมให้เราได้หลากหลายวิธี ทั้งแมมโมแกรมแบบที่มีทั้งเจ็บน้อยถึงไม่เจ็บ หรือแค่วัดอุณหภูมิร่างกาย ก็บอกได้ว่าเป็นมะเร็งเต้านมหรือไม่ และนอกจากการป้องกัน เราก็ไม่ลืมหาคำตอบทางการรักษา เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ที่กำลังรับมือกับโรคร้ายนี้อยู่ได้เป็นกำลังใจ เป็นความก้าวหน้าด้านการรักษาที่ทุกอย่างทำได้ในประเทศไทย นอกจากหายขาดจากโรคร้ายนี้แล้ว ก็ยังได้เต้านมใหม่ที่สวยกว่าเดิมอีกด้วย จะเล่าให้ฟังในสัปดาห์หน้าซึ่งเป็นบทสรุปท้ายของเรื่องนี้ อย่าลืมติดตามนะคะ
เครดิตภาพ: 1, 2