เบรกเที่ยวในโรม ตอนจบ…Shopping in Rome
โดย Paul Sansopone
มาถึงตอนนี้ City Break Rome ก็เป็นตอนที่ 15 ซึ่งจะเป็นตอนส่งท้ายก่อนออกจากโรมไปเมืองอื่น แต่เราจะจากเมืองนี้ไปโดยไม่ได้ช็อปปิ้งคงไม่ไช่แน่ๆ เนื่องจากโรมเป็นเมืองแห่งแฟชั่นและศิลปะซึ่งอยู่อันดับต้นๆ ของโลก มาดูกันว่าย่านช็อปปิ้งของที่นี่ต้องไปที่ไหนกัน
ช็อปปิ้งบนถนนสายหลัก Street Shopping
1. Via dei Condotti
ถนนแห่งนี้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาโรมหลายล้านคนมาแล้ว มันอยู่ที่จัตุรัสบันไดสเปน แบบว่าถ้าเราหันหลังให้บันไดสเปนแล้วเดินเข้าไปในถนนสายที่คนเดินเยอะๆ ก็ใช่เลย เพราะบรรดาร้านระดับ Haute Couture ของ Italian Brandทั้งหลายมักจะมี Flagship Store อยู่บนถนนสายนี้ทั้งสิ้นนำโดย: Gucci, Bulgari, Prada, Hermès, Ferragamo, Armani, Trussardi, Valentino และอื่นๆ
Via dei Condotti
2. Via del Corso
ถนนเก่าแก่สายนี้เกิดมาพร้อมๆ กับกรุงโรม ตัดผ่าเมืองหลวงอิตาลีแห่งนี้จากเหนือลงใต้ ถือเป็นถนนเมนหลักที่นักท่องเที่ยวใช้เพื่อไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ หลายแห่งในโรม และก็มีร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าทีมีแบรนด์ที่เรารู้จักดี (High Street Brand) แต่ร้านค้าท้องถิ่นที่นำเสนออิตาเลี่ยนแฟชั่นนั้นก็มีมากโดยเฉพาะร้านรองเท้าและร้านที่เป็น Special Interest อื่นๆ เช่น ร้านเครื่องดนตรีหรือเครื่องเสียง
3. Via Borgognona
ถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องร้าน Top-Name Fashion ไม่ได้เป็นรองถนน Via dei Condotti ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ก็คงเป็นสายนี้มีร้านอย่าง Dolce&Gabbana, Fendi, Ferrè, Givenchy และVersace
4. Via del Babuino
ถนนนี้มีทั้งของเก่า(Antiques) หากชอบแต่งบ้านด้วย Art Pieces จากอิตาลีแท้ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์สไตล์บาโรค ภาพวาดสีน้ำมัน, เครื่องแก้วที่ไม่ใช่ของก็อปปี้ ควรมาดู และก็มีร้านแฟชั่นชั้นดีอย่าง Armani, Chanel, Tiffany&Co. มาเปิดอยู่ด้วยทำให้มีส่วนผสมของความเก๋ไก๋ไม่น่าเบื่อ
Via del Babuino
5. Via Margutta
ถนนนี้เอาใจผู้ที่รักงานศิลปะโดยเฉพาะ งานภาพวาดหรือของแต่งบ้านที่เป็น Art Pieces ที่โดดเด่นก็เป็นบรรดาร้านขายของเก่า Antiquities Shops โดยเฉพาะที่อยู่เลขที่ 45 และ86 แต่ถ้าต้องการแบบทำขึ้นใหม่ Reproduction ราคาย่อมเยาก็ต้องเลขที่ 109 ต้องขอบอกว่าบรรยากาศของถนนสายนี้ดูโรแมนติกมากๆโดยเฉพาะยามพลบค่ำ
6. Via Bocca di Leone
ถนนนี้เชื่อม Via dei Condotti และ Via Borgognona แน่นอนว่าต้องมีร้านลักษณะ High-Style Boutiques โดยเป็นแบรนด์อิตาลีดังเช่น Valentino และGianni Versace
7. Via Nazionale
ถนนสายหลักแห่งนี้จะมีร้านที่ขายสินค้าราคาปานกลาง แต่ถ้าเป็นรองเท้าเสื้อผ้าก็มีดีไซน์ที่ใช้ได้ อย่าลืมว่าเราอยู่ในอิตาลีที่เด่นเรื่องการออกแบบอยู่แล้ว ขอแนะนำร้านเครื่องนอน ผ้าปูเตียงปลอกหมอน ต้องร้าน Frette ที่มีOutlet Store อยู่ที่ถนนนี้
ช็อปแบบห้างสรรพสินค้า Shoping Mall or Department Store in Rome
Galleria Alberto Sordi
ที่นี่มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ Galleria ต้นตำรับที่เมืองมิลานทางเหนือโดยเฉพาะเพดานกระจกและการตกแต่งด้วยศิลปะแบบ Art Deco เปิดมาไม่นานเมื่อปี 2004 นี่เอง มันเป็น Shopping Mall แห่งเดียวที่อยู่ใจกลางเมืองโรมตรงจัตุรัส Piazza Colonna บนถนน Via del Corso เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม มีร้านเหล่านี้รอนักช็อปอยู่ Zara, CK Calvin Klein, Richard Ginori , Sony Gallery, ร้านหนังสือ Feltrinelli และร้านของกินมากมาย
ห้าง La Rinascente
เป็นห้างแบบ Department Store ที่คนไทยรู้จักดีเพราะถูกซื้อไปโดยเซ็นทรัลกรุ๊ป มี 10 กว่าสาขาทั่วอิตาลีโดยที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ที่มิลาน ในโรมก็จะมีอยู่ใน Galleria Alberto Sordi มอลล์ที่แนะนำไปด้านบน และก็อีกแห่งจะอยู่ที่ถนน Via del Tritone ที่เปิดล่าสุด ห้างนี้จะมีสินค้าแบรนด์ดัง เช่น 7 for All Mankind, Burberry, Cachare, Caractère, Class, Roberto Cavalli, Denim by Victoria Beckham, Diesel, French Connection, Guess, Marc by Marc Jacobs, Chloé และ True Religion. ส่วนเครื่องสำอางค์ก็ Laura Mercier, Ahava, Bulgari, Burberry, Calvin Klein, Chloé, Roberto Cavalli, Clinique, Dior, Dolce & Gabbana, Donna Karan, Estée Lauder, Versace, Giorgio Armani, Gucci, Jennifer Lopez, Lacoste, Lancôme, MAC, Marc Jacobs, Michael Kors, Miss Sixty, Moschino, Ralph Lauren, Stella Mc Cartney และ Tommy Hilfiger. สินค้าแต่งบ้านพวก Home Decoration ก็มี Alessi, Bellora, Bossi, Carrara, Casapoggesi, Delonghi, Guzzini, Kenwood, Seletti และ Villeroy & Boch
www.rinascente.it
ห้าง Coin
ห้าง COIN ก็ถือเป็น Upscale Department Store เช่นกัน มีสาขาอยู่ทั่วอิตาลี ที่โรมจะมีอยู่ 3 แห่ง แต่ที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ในย่านปลาติ Prati ใกล้กับวาติกัน อยู่บนถนนสายช็อปปิ้งที่ดังอยู่เหมือนกันที่ชื่อถนน Via Cola di Rienzo ห้างนี้โดดเด่นเรื่องแฟชั่นชายหญิง โดยเฉพาะแฟชั่นกางเกงยีนส์ ของแต่งบ้าน จริงๆ แล้วห้างสรรพสินค้าในอิตาลีที่ชื่อคุ้นยังมี UPIM (“Unico Prezzo Italiano Milano”) และ OVS Industryแต่เจ้าของก็คือบริษัทเดียวกันกับ Coin ซึ่งจะเป็นตัวทำตลาดบนส่วน Upim, OVS จะทำตลาดกลาง
Via Cola di Rienzo, 173 (Prati)
www.coin.it
ช็อปแบบ Outlet Shopping ใกล้ Rome
สมัยนี้นักท่องเที่ยวเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อของที่ Outlet Shopping เพราะได้ของดีราคาพิเศษอาจไม่ใช่ของแบบ in seasonแต่ก็ไม่ถึงขนาดตกรุ่นตกเทรนด์ขนาดนั้น เรามารู้จัก Outlet ของโรมกันครับ
Castel Romano Designer Outlet (บริหารโดย McArthur Glen outlet chain)
เวลาเปิด-ปิด จันทร์-อาทิตย์ 10 โมงเช้า-2ทุ่ม แต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ปิด 3ทุ่มตรง อยู่ที่ Via Ponte di Piscina Cupa, 64, Castel Romano
แบรนด์ดังที่มีขายที่นี่: 140 ร้านดังรวมทั้งValentino, Roberto Cavalli, Furla, and Patrizia Pepe
วิธีไปจาก Rome: โดยขับรถเช่าไป (20 นาที)ใช้สาย SS 148 south มุ่งหน้า Pomezia แล้วให้ออก exit ที่เขียน Castel Romano โดย shuttle busจับรถบัส Via Marsala หน้าสถานีรถไฟ Termini stationเวลา 10am, 12:30pm, หรือบ่าย 3โมง ค่าโดยสารไปกลับ 13euros (โทร 02 867 131)หรือโดยรถตู้ shuttle ของoutlet(29 eurosไปกลับ)โทรจองล่วงหน้า1วันเบอร์ 3490836551 เพื่อนัดรับที่โรงแรมถ้ามีหลายคนเบอร์โทรของร้าน0650 50050
Valmontone Outlet
เวลาเปิด-ปิด จันทร์-อาทิตย์ 10 โมงเช้า-2ทุ่มจันทร์ถึงวันศุกร์แต่เสาร์-อาทิตย์ปิด3ทุ่มตรง อยู่ที่ Via della Pace, Pascolaro, Valmontone
แบรนด์ดังที่มีขายที่นี่: มักเป็นแบรนด์ระดับ High Street มากกว่าที่เป็น designer storesเช่น Calvin Klein, Intimissimi, Clarks, Ethic, Sisley, and Baldinini.
วิธีไปจาก Rome: โดยขับรถเช่าไป (45 นาที), ใช้สาย A 1 south มุ่งหน้า Napoli แล้วต่อ E45 ไป San Cesareo ให้ออก exit ที่เขียน Valmontone: โดย shuttle bus, จับรถบัสหน้าร้าน Terracafe ถนน Via Marsala 29 ไกล้สถานนีรถไฟ Termini station ค่าโดยสารไปกลับ 5 euros (โทร 06 45473194) เบอร์โทรของร้าน06 959949
ช็อปปิ้งตลาดสดหรือแบบตลาดนัดในโรม
ตลาดนัดหรือตลาดสดในยุโรปนั้นถือเป็นประสบการณ์การช็อปที่คลาสสิกไม่เลวครับ อย่างตลาดนัดนี่เรามักจะเจอของเก่าเก็บของแอนติก Antiques ที่นำมาแต่งบ้านได้ไม่ซ้ำใคร แม้ไม่รับประกันความแท้แต่บางครั้งดูดีๆ ได้ของดีของแท้จริงครับ เพราะของเหล่านี้ไม่มีผลิตแล้วอาจเป็นของแบบทบทวนความหลัง Memorabilia ก็ได้เช่นของเล่นที่ทำจากสังกะสี
1. Porta Portese
ตลาดนัดวันอาทิตย์เช้าหรือ Flea Marketที่ใหญ่หน่อยของโรมคงต้องเป็นที่นี่ครับมีของครบ เสื้อผ้า ของแอนติก งานศิลปะ ของทบทวนความหลังและอื่นๆ มาได้เลยอยู่ที่ถนน Via Ippolito Nievo
2. Campo de’ Fiori
ตลาดสดที่เปิดมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง(Medieval )มาจนถึงยุคปัจจุบัน ขายอาหารสด อาหารแห้งผลไม้แบบสไตล์ Farmer’s Market ของใช้ในบ้าน แค่มาเดินดูคนซื้อคนขายต่อรองราคากันก็คุ้มแล้วนะครับ
มาถึงย่อหน้าสุดท้ายของ City Break Rome กันแล้วนะครับ หวังว่าเรื่องราวของอมตะนครแห่งนี้จะเป็นประโยชน์กับท่านบ้างไม่มากก็น้อย หากได้มีโอกาสมาเที่ยวที่นี่ ผมคงต้องขอลาด้วยคำว่า ‘ Ciao’ แล้วพบกันใหม่ใน City Break Paris สุดยอดมหานครอีกแห่งในแง่มุมที่ท่านอาจยังไม่รู้จัก
Copy right © 2016 The Editors. All right reserved.
For Advertising Contact
086-3260374
, 081-7856188