Etam แบรนด์ชุดชั้นในจากฝรั่งเศส บินมาอวดความเซ็กซี่ให้สาวไทยเลือกหาใกล้มือถึงที่นี่
April 18th, 2017
เอแตม (Etam) ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1916 แม้ว่าจะผ่านกระแสเทรนด์แฟชั่นมาอย่างมากมาย หลายยุคสมัย ทว่าเรื่องของความมุ่งมั่นที่จะรังสรรค์ความงามเพื่อผู้หญิงทุกคน ก็ยังคงอยู่เคียงคู่มากับแบรนด์ Etam ตลอดมา
(จากซ้าย) ดารารัตน์ บุญธรรม ผู้จัดการแบรนด์ชุดชั้นใน Etam, จักร เฉลิมชัย รองประธานกลุ่มพัฒนาธุรกิจใหม่และอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และอรรถวดี จิรมณีกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
นิยามความงามประจำแบรนด์ที่ว่า “ปกปิดแต่ดูเปิดเผย เย้ายวนและน่าตื่นเต้น น่าแปลกใจทว่าชวนประทับใจยิ่ง” ล้วนแสดงว่านี่คือผู้หญิงในแบบฉบับของ Etam นับตั้งแต่ยุค 20s ไปจนถึงยุค 60s กระทั่งเข้าสู่ยุคดิจิตอล ผู้หญิงหลายล้านคนทั่วโลกต่างให้ความความสำคัญ และหลงใหลไปกับชุดชั้นใน กางเกงชั้นใน ถุงน่อง กางเกงรัดรูป รวมไปถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน Etam ไม่เคยหยุดนิ่งในการรังสรรค์สิ่งใหม่ ๆ บนพื้นฐานความเข้าใจ ความต้องการของผู้หญิง ภายใต้ปรัชญา “อิสรภาพแบบฝรั่งเศส” (French Freedom) ที่ทำให้สัมผัสถึงความสวย เซ็กซี่ แบบสาวปารีเซียง
มาวันนี้เป็นเวลา 100 ปีแล้ว Etam อยู่เคียงข้างผู้หญิงทุกคนที่แสวงหาอิสรภาพ รวมทั้งคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้หญิงมีพลัง และช่วยให้เรือนร่างของพวกเธอยามที่สวมใส่ชุดชั้นในนั้น เบาสบาย คล่องตัวในทุกอิริยาบถ เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ โดยผสานความหรูหราของชุดชั้นในกับแฟชั่นของหญิงสาวในแต่ละยุคสมัยเข้าไปในศิลปะแห่งการทำคอร์เซ็ทไว้ด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์ และที่สำคัญ Etam ยังเป็นแบรนด์แรกที่เริ่มใช้โครงในบราและเริ่มใช้ลวดลายลงบนชุดชั้นใน สำหรับกลางวันและกลางคืน รวมทั้งการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เสมอ อาทิ บราไร้ตะเข็บ การวัดร่องอก บราแบบเมมโมรี่โฟม ชุดชั้นในลูกไม้หลากสี และโครงซิลิโคน
ยุคก่อตั้ง 1916
ผู้หญิงยุคนี้เป็นผู้หญิงทำงาน และทำหน้าที่ไม่ต่างจากผู้ชาย ร้าน Etam แห่งแรกเปิดขึ้นในกรุงเบอร์ลิน ที่สามารถตอบโจทย์ผู้หญิงที่ต้องการวิถีชีวิตแบบใหม่ หมดสมัยแล้วที่จะมาใส่คอร์เซ็ตหรือชุดที่หนักอึ้ง ผู้หญิงยุคนี้จึงกล้าที่จะโชว์เรียวขา หรือสวมใส่ถุงน่องผ้าไหมเทียมที่ทั้งทนทานและสวยงาม โดยมี ‘Etam’ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ
ยุค 1920-1950
Etam ได้เปิดร้านแรกในกรุงปารีส ณ ร้านเลขที่ 376 ถนนแซง-ตอนอเร่ (Saint-Honoré) สาวๆ ต่างก็เดินทางมาซื้อถุงน่องที่ไม่มีวันรัน ก่อนขยายสาขาสู่บราซิล อาร์เจนตินา ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้หญิงเริ่มหันมาใส่กระโปรงสั้น ส้นสูง เอแตมก็เริ่มจำหน่ายชุดชั้นในที่มีดีไซน์สวยโดนใจ จนมาในยุค 1950 ซึ่งเป็นยุคที่ผู้คนใช้จ่ายเพื่อความสุขมากขึ้น และแฟชั่นที่ฮิตฮอตที่สุดในตอนนั้นก็คือ กระโปรงบาน หลังจากนั้นลูกชายของผู้ก่อตั้ง Etam ได้มารับช่วงกิจการต่อ และเพิ่มทางเลือกชุดชั้นในให้มีความหลากหลายมากขึ้น
ยุค 1960
Etam เริ่มมีลูกค้าที่อายุน้อยเพิ่มมากขึ้น และเริ่มมีสินค้าที่มีราคาที่จับต้องได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเปลี่ยนวิธีการขายจากการใส่ไว้ในตู้โชว์ เป็นการวางสินค้าโชว์ให้สาว ๆ มองเห็นได้ชัดขึ้น กระทั่งในปี 1968 คอร์เซ็ตกลายเป็นของล้าสมัยสำหรับคุณผู้หญิง เพราะพวกเธอเริ่มหันมาใส่ชุดชั้นในผ้าฝ้าย Etam จึงเริ่มผลิตชุดชั้นในเข้าเซ็ทขึ้นมา
ยุค 1970
ในยุคของสาวฮิปปี้ Etam เลือกที่จะนำเสนอความเป็นผู้หญิงแบบสบายๆ ด้วยกางเกงชั้นในลายสนุกสนานสดใส และเริ่มผลิตเสื้อนอนตัวยาว ขณะเดียวกันสาวๆ ต่างก็ต้องการความเซ็กซี่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ Etam จึงได้สร้างสรรค์กางเกงในจีสตริงเป็นครั้งแรกในฝรั่งเศส
ยุค 1980
มายุคนี้ผู้หญิงหลงรักการเต้นแอโรบิค ชอบศิลปะแนวกราฟิตี้ และฟังเพลงพั้งก์ร็อก Etam เปิดสาขาแรกในประเทศญี่ปุ่นและเริ่มจำหน่ายกางเกงชั้นในผ้าฝ้าย 100% บรรจุในกล่องของขวัญ และเริ่มดีไซน์เสื้อผ้าสำหรับใส่อยู่บ้าน มีการร่วมงานกับนักเต้นแอโรบิคชื่อดังอย่าง Véronique & Davina รวมทั้งเริ่มจำหน่ายบราแบบไร้ตะเข็บ Etam ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของหญิงสาว ไม่ว่าจะเป็นชุดชั้นในหรือชุดนอนที่สวมใส่สบาย
ยุค 1990
Etam ได้คิดค้น Magic-Up ขึ้นมา โดยในปี 1998 โฆษณาของเอแตมให้นิยามแบรนด์ว่า “จงแตกต่าง จงเป็นตัวของตัวเอง” (Be different, be yourself!) ส่งผลให้สาวๆ ยุคนั้น ชื่นชอบชุดชั้นในที่เรียบง่าย สวมใส่สบาย และแนบชิดไปกับสรีระ เพื่อการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และมั่นใจ
ยุค 2000
ยุคดิจิตอลเป็นเหมือนการทดลองไอเดียต่างๆ นักแสดงหญิงเริ่มรับบทบาทในชีวิตจริงเป็นคุณแม่ และไม่กลัวที่จะเผยรูปร่างในขณะตั้งครรภ์หรือออกไปเดินเล่นกับลูกๆ Etam จึงได้ออกแบบเสื้อผ้าสำหรับคุณแม่ขึ้นมา และเป็นเวลาเดียวกันที่ Etam ร่วมมือกับ Ekyog เพื่อผลิตชุดชั้นในผ้าฝ้าย 100% ที่ทำจากฝ้ายออร์แกนิก นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น Stay-Up บราที่เหมาะกับชุดเปิดไหล่ กางเกงชั้นในลูกไม้ที่ทั้งเซ็กซี่และสวมใส่สบาย ชุดว่ายน้ำแห้งไว ไม่ระคายตัว และเอแตมได้รับเกียรติจากดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง Fifi Chachnil และLolita Lempicka มาช่วยออกแบบคอลเล็กชั่นให้อีกด้วย
และในปี 2001 Etam เปิดร้านออนไลน์เป็นครั้งแรก กลายเป็นผู้นำของเทรนด์ “ฟิจิตอล” ซึ่งเป็นการผสมผสานร้านแบบธรรมดา (physical) เข้ากับร้านออนไลน์ (digital) ภายในร้านมีแท็บเล็ตและมีบริการซื้อผ่านอินเตอร์เน็ต พร้อมทั้งจุดรับสินค้า และการสั่งจองสินค้าทางอินเตอร์เน็ต นวัตกรรมได้พาเอแตมก้าวไปสู่การขยายกิจการสู่ระดับนานาชาติ ปัจจุบัน Etam มีร้านค้าในกว่า 51 ประเทศทั่วโลก และยังคงขยายธุรกิจไปอย่างต่อเนื่อง
ยุค 2016
ในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปี ศิลปิน นักดนตรี นางแบบ ดีไซเนอร์ และคนดังในแวดวงแฟชั่นและดีไซน์จากทั่วโลก จำนวน 10 ท่าน ได้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานชิ้นพิเศษโดยถ่ายทอดภายใต้ธีม Women and Independence โดยนิทรรศการดังกล่าวจัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้ และปารีสในช่วง International Contemporary Art Fair ซึ่งจากนั้นได้มีการประมูลเพื่อระดมทุนสนับสนุน Naked Heart Foundation ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลของนางแบบชื่อดัง Natalia Vodianova ซึ่งเป็นมิวส์ (muse) หรือแรงบันดาลใจให้เอแตมมาเป็นระยะเวลา 8 ปี
พบกับเอแตม สโตร์ ได้ที่ อาทิ สาขา เมกาบางนา ชั้น 1 โทร.02-105-1654, สาขา เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้าชั้น 1 โทร.02-101-2494, สาขา ดอนเมือง แอร์พอร์ต ชั้น 3 โทร.02-504-3951 และเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ สาขา พารากอน ชั้น 3 โทร.02-610-7960, สาขา เซ็นทรัลชิดลม ชั้น 6 โทร.02-254-3764, สาขา เอ็มโพเรียม ชั้น BF1 โทร.02-259-8420
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-365-6185 หรือ Instagram: etamThailand และ Facebook: etamThailand
ภาพ : ลิขสิทธิ์แบรนด์
ภาพแฟชั่นโชว์ Etam Spring Summer 2017 จาก Vogue Paris